วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ขั้นตอน การดูแลบ้าน ให้ดูดี

ขั้นตอน การดูแลบ้าน ให้ดูดี

ขั้นตอนที่ 1
สภาพ แวดล้อมของบ้าน ฝุ่นละออง แสงสว่าง ความร้อนและความชื้นทั้งหมดนี้ล้วนมีผลกระทบต่อสภาพของการตกแต่งในบ้าน ถ้าไม่ระวังข้าวของต่าง ๆ มีสิทธิ์ที่จะเสื่อมสภาพไปได้เหมือนกันเช่น แสงแดดที่มากเกินไปมักเป็นอันตรายต่อวัสดุตามธรรมชาติทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้ ผ้า สีย้อมตามธรรมชาติทุกชนิดและกระดาษ จึงควรหลีกเลี่ยงพยายามไม่ให้ภาพวาด เฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือผ้าม่านสวย ๆ ต้องถูแสงแดดโดยตรง โดยการหามู่ลี่มาปิดกันแสงไว้เสีย
แปลนบ้าน
ขั้นตอนที่ 2
สัตว์ นำโรคและแมลง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม คงเป็นเรื่องยากที่จะหลีกหนีบรรดาสัตว์นำโรคต่าง ๆเช่น หนู แมลงสาบ แมลงกินผ้า มด ยุง วิธีหนึ่งที่พอจะรับมือกับบรรดาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็คือ การหมั่นดูดฝุ่นและทำความสะอาดบริเวณเหล่านี้ให้ดี หมั่นตรวจสอบไปรอบ ๆ บ้าน เมื่อพบเจออะไรที่ผิดปกติก็ควรรีบหาทางแก้ไขเสียแต่เนิ่น ๆ แต่การกำจัดแมลงหรือสัตว์ในบ้านบางชนิด อาจต้องใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย หากสุดความสามารถจริง ๆ แล้วก็อาจต้องพึ่งบริษัทกำจัดแมลง

ขั้นตอนที่ 3
ดูแล ของเก่าในบ้าน สิ่งที่เป็นศัตรูสำหรับของเก่าก็คือสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งมีหลักง่าย ๆ ว่าอย่าให้อากาศโดยรอบแห้งจนเกินไป อย่าให้ถูกแสงแดดตรง ๆ โดยตั้งไว้ในที่ที่จะถูกกระทบได้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะโดนคนหรือของตกแต่งชิ้นอื่น และเคลื่อนย้ายหรือจับต้องอย่างเบามือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับของที่บอบบางหรือแตกได้
แปลนบ้าน
ขั้นตอนที่ 4
เฟอร์นิเจอร์ ไม้ ควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้ถูกที่ โดยไม่ให้อยู่ใกล้แหล่งความร้อนหรือตั้งบนพื้นที่เปียกชื้นแต่ควรตั้งในที่ ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และมีอุณหภูมิของอากาศที่ค่อนข้างคงที่ ถึงแม้จะเป็นไม้เก่าแค่ไหนก็ต้องระวังเรื่องแสงสว่างให้มาก อย่าให้ถูกแสงแดด แสงสปอตไลท์ และแสงจากโคมไฟโดยตรง รอยขีดข่วนของข้าวของที่วางบนเฟอร์นิเจอร์ไม้และรอยหยดน้ำต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนมีผลต่อความงามของเนื้อไม้ทั้งสิ้น ทางที่ดีควรจัดหาแผ่นรองแก้วและสิ่งของอื่น ๆ เพื่อไม่ให้สัมผัสกับพื้นผิวของไม้โดยตรง และปัดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แมลงมาเจาะกินอาศัยเนื้อไม้ได้

ขั้นตอนที่ 5
ภาพ วาด ทั้งภาพสีน้ำและสีน้ำมัน ซึ่งจะมีองค์ประกอบของภาพจำพวกไม้ ผ้าใบ สีฝุ่น น้ำมันเคลือบเงา ล้วนเปลี่ยนแปลงได้ตามอุณหภูมิที่ขึ้นลง ภาพสวย ๆ อาจจะหด งอ บิดเบี้ยวหรือแตกได้ ถ้าได้รับความร้อนมากเกินไป เพราะฉะนั้นควรแขวนภาพไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดี ไม่ควรใช้มือจับพื้นผิวของภาพโดยตรงและหากจะทำการเคลื่อนย้ายภาพไปไหน ๆ ก็ควรห่อด้วยวัสดุกันกระแทกหรืออะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้ภาพได้รับความกระทบ กระเทือนมากนัก

แปลนบ้าน www.homedd.com

เคล็ดลับเลือกของแต่งบ้านให้น่าอยู่

เคล็ดลับเลือกของแต่งบ้านให้น่าอยู่

วิธีเลือกของแต่งบ้านแค่ 10 อย่าง เพื่อสร้างบรรยากาศที่น่าอยู่และทันสมัยให้กับบ้านคุณ
สำหรับ ผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านเพื่อ สร้างบรรยากาศให้มีความน่าอยู่ อบอุ่นและทันสมัยอยู่ตลอดเวลา คุณอาจจะมีเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเยอะแยะไปหมด จนบางครั้งเลือกไม่ถูกว่าจะจัดวางชิ้นไหนไว้ตรงไหนดี จึงจะเหมาะสมและสวยงาม วันนี้เรานำเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆในการเลือกของ 10 สิ่ง เพื่อสร้างบรรยากาศดีๆให้บ้านของคุณน่าอยู่ได้ไม่ยากมาฝากกัน แปลนบ้าน

โซฟา
ให้ เลือกโซฟาแบบขาลอยจะดีที่สุด เพราะเหมาะสำหรับทั้งใช้รับแขกและนั่งเล่น โดยขาลอยจะช่วยให้โซฟาดูโปร่งเบาไม่อึดอัด อีกทั้งยังทำความสะอาดพื้นได้ง่าย และควรเลือกขนาดโซฟาให้เหมาะกับขนาดของพื้นที่ห้อง ส่วนวัสดุนั้น ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน หากต้องการเน้นความสบาย อ่อนนุ่ม ก็ให้เลือกบุด้วยผ้า แต่หากต้องการให้ดูหรูหราขึ้น ก็ควรเลือกที่บุด้วยหนังซึ่งดูแลง่ายกว่าแบบผ้าแต่ราคาจะสูงกว่า แปลนบ้าน

ตู้ลอย
(เตี้ย) สำหรับบ้านใครที่มีข้าวของเยอะ ควรมองหาตู้ดีไซน์เรียบเกลี้ยง เน้นให้มีบานตู้หรือลิ้นชักเพื่อป้องกันฝุ่นและบดบังความรกจากของที่เก็บ อยู่ภายในตู้ นอกจากนี้อาจใช้เป็นที่วางโทรทัศน์หรือวางกั้นพื้นที่
เพื่อสร้างความเป็นสัดส่วนด้วยก็ได้ โดยความสูงของตู้ไม่ควรเกิน 90 เซนติเมตร เพื่อจะได้ดูโล่งตา ไม่เกะกะพื้นที่

โต๊ะกินข้าวอเนกประสงค์

โต๊ะกินข้าวลายไม้สีธรรมชาติสไตล์เซนสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ด้วยดีไซน์แบบเรียบๆ ทำให้สามารถเข้ากันได้ดีกับเก้าอี้หลายรูปแบบ และหากมีงานปาร์ตี้ก็สามารถนำไปใช้งานกับพื้นที่กึ่งเอ๊าต์ดอร์ได้เหมาะสม หรือจะประยุกต์ใช้กับกิจกรรมอื่นก็ทำได้ง่าย แปลนบ้าน

โคมไฟเฉพาะจุด
แสง สว่างที่เน้นเฉพาะจุดของโคมไฟแขวนเพดาน หรือโคมไฟตั้งโต๊ะ ตั้งพื้น ช่วยทำให้มุมหลบ มุมมืดดูสว่างขึ้นได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเดินระบบสายไฟใหม่ให้ยุ่งยาก ที่สำคัญเป็นการเพิ่มความรู้สึกอบอุ่น น่าสบายและสวยงามภายในบ้านด้วย อย่างเช่น การเลือกใช้แชนเดอเลียร์ในบางจุดของบ้านก็ช่วยทำให้มุมธรรมดาๆ กลายเป็นมุมสวยๆไว้รับแขกได้

เก้าอี้ตัวเบา ถือเป็นสิ่งสำคัญของบ้าน เพราะไม่ว่าจะนั่งรับประทานอาหาร นั่งรอ นั่งเล่น หรือนั่งพักผ่อน เราจำเป็นต้องหาเก้าอี้นั่งสบายๆ มาไว้ตามมุมต่างๆ ยิ่งถ้าน้ำหนักเบา ดีไซน์สวยด้วยแล้ว จะวางแยกหรือจัดแบบยกชุดวางเข้าคู่กับโต๊ะกินข้าวอเนกประสงค์ก็สามารถทำได้ อีกทั้งสามารถใช้รับรองแขก เวลาที่มีปาร์ตี้ที่บ้านเป็นหมู่คณะได้ดี หรือถ้าเบื่อจะวางชิดผนังจับคู่กับโต๊ะข้างตัวเล็กๆ ก็จะกลายเป็นมุมน่านั่งเพิ่มอีกมุมในบ้าน

พรม
พรมเป็นของตกแต่งที่ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่ยังทำให้เกิดบรรยากาศที่ดูอบอุ่นและสร้างความปลอดภัยให้ผู้ใช้งาน โดยเฉพาะบริเวณที่พื้นลื่นหรือขัดเงา เช่น ทางเดินเข้าบ้านและส่วนนั่งเล่น สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้อาจเลือกใช้พรมที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ หรือ 'เสื่อ' แทน ซึ่งปัจจุบันมีสีสันและลวดลายให้เลือกมากมาย มีข้อดี คือ น้ำหนักเบา สามารถใช้ปูรองนั่งส่วนใดในบ้านก็ได้เพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศแบบง่ายๆ

กรอบรูป
ควร มีกรอบรูปสวยๆติดบ้านไว้ โดยสามารถใส่ภาพเก่า ภาพใหม่ ภาพเล็ก ภาพใหญ่ได้ตามใจชอบ และเลือกความหนาและสไตล์ของกรอบเฟรมให้เข้ากับภาพเพราะเมื่อนำไปติดบนผนัง เรียงกันจะดูสวยงาม หรืออาจวางบนโต๊ะข้างหรือหลังตู้ จะทำให้มุมเล็กๆ ของบ้านดูมีเรื่องราว มีชีวิตชีวามากขึ้น นอกจากนี้หากคุณเบื่อที่จะหารูปโปรด การวางกรอบรูปเปล่าๆที่มีลวดลายพิงผนังไว้เฉยๆก็ทำให้บ้านสวยเก๋ไปอีกแบบ

กระจกเงา
กระจกเงาพร้อมกรอบสวยๆ ช่วยแต่งบ้านให้ ดูดีมีสไตล์ได้ โดยเฉพาะกับบ้านที่มีขนาดกะทัดรัด หากนำไปตกแต่งผนังในมุมอับจะช่วยให้บ้านดูกว้างและสว่างตาขึ้น หรือจะนำกระจกเงาแบบเรียบมาแต่งผนังโดยจัดเรียงให้ดูแปลกตา ก็สร้างความน่าสนใจได้ดี แปลนบ้าน

ผ้าม่าน - มู่ลี่
สำหรับ บ้านที่มีหน้าต่าง หรือช่องแสงตรงกับระดับสายตาของคนข้างนอกโดยตรง ผ้าม่านและมู่ลี่เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว ทั้งยังกรองแสงที่เข้าสู่บ้านได้ด้วย ให้ลองเลือกผ้าเบาบางมาซ้อนเป็นชั้นด้านใน จะช่วยให้บ้านดูสบายตาขึ้น ส่วนมู่ลี่ไม่ควรใช้เยอะเกินไปเพราะจะทำให้บ้านดูเหมือนออฟฟิศ

อาร์มแชร์ หรือ เก้าอี้มีเท้าแขน ดี ไซน์สวยๆสักตัวจะช่วยให้บ้านคุณดูอบอุ่นน่าพักผ่อนขึ้น โดยเหมาะอย่างยิ่งกับมุมสบายๆในบ้าน อย่างเช่น มุมเอนกาย มุมหนังสือ หรือทีงีบหลับพักผ่อน หากที่บ้านมีพื้นที่กว้างอาจจัดวางเข้าชุดกับโซฟารับแขกเลยก็ได้

ขอขอบคุณ

ข้อมูล : www.baanlaesuan.com และ นิตยสาร Room

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Tips และ เทคนิค สำหรับดูแลห้องน้ำที่ไม่ควรมองข้าม

Tips และ เทคนิค สำหรับดูแลห้องน้ำที่ไม่ควรมองข้าม

แปลนบ้าน
วันที่ 19 กันยายน 2551

1. หากมีการใช้ไม้เป็นส่วนประกอบในการตกแต่งห้องน้ำแล้วล่ะก็สิ่งที่ควรทำหลัง ทาสีแล้ว คือการทาน้ำมันชักเงาสีด้านใสทับอีกชั้น เพื่อป้องกันน้ำซึม เพราะความชื้นอาจทำให้ไม้งอ หรือพองได้
2. ผิวไม้ที่ประกบติดบริเวณสุขภัณฑ์ต้องถอดออกง่าย เพื่อสามารถซ่อมแซมงานท่อได้อย่างทันใจในกรณีที่จำเป็น
3. รูปภาพและเครื่องประดับตกแต่งในห้องน้ำต้องกันน้ำและความชื้น เราอาจป้องกันภาพวาดหรือภาพถ่ายได้โดยใส่กรอบกระจกหรือ พลาสติกเพอร์สเพ็กซ์
4. หากคุณจะใช้อ่างอาบน้ำเหล็กหล่อใบใหญ่ควรที่จะเช็คเรื่องการรับน้ำหนักพื้น ของคุณก่อน เพราะเมื่อเติมน้ำลงอ่างและน้ำหนักตัวด้วยแล้วมันจะหนักมาก
5. หากกระเบื้องห้องน้ำเป็นคราบขัดออกยาก อาจใช้กระดาษทรายน้ำเนื้อละเอียดขัดร่วมกับน้ำตรงบริเวณที่เป็นคราบ พยายามอย่าให้ถูกวัสดุที่ปูไว้ โดยเฉพาะหินอ่อนหรือหินแกรนิตควรจะเพิ่มความระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจทำให้ผิวของหน้าหินไม่เงางามได้
6. การทำความสะอาดพื้นห้องน้ำที่ปูด้วยหินอ่อนนั้นควรให้ความระมัดระวังเป็น พิเศษ เนื่องจากหินอ่อนมีส่วนประหอบของหินปูน ดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนหินปูน
7. สิ่งควรระวังในการทำห้องน้ำใหม่ คือ ควรที่จะมีการเช็ค slope ของพื้นในขั้นของการเทปรับระดับพื้น ก่อนที่จะมีการปูหินหรือกระเบื้องจริง

แปลนบ้าน
แหล่งที่มาของข้อมูล: บาริโอ

วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

หนาวนี้..ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นให้ปลอดภัยและประหยัด

หนาวนี้..ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นให้ปลอดภัยและประหยัด

หลายคนที่ทนอาบน้ำเย็นไม่ไหวจึงเริ่มพึ่งพาเครื่องทำน้ำอุ่นกันแล้ว เครื่องทำน้ำอุ่นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำให้น้ำร้อนขึ้น โดยอาศัยการพาความร้อนจากขดลวดความร้อน และมีอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิทำหน้าที่ตัดกระแสไฟฟ้าเมื่อน้ำมีอุณหภูมิสูงถึง ระดับที่ตั้งไว้

เคล็ดลับในการเลือกซื้อ การใช้งาน และการดูแลรักษาเครื่องทำน้ำอุ่นอย่างประหยัดและปลอดภัย มีดังนี้
# เลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีกำลังวัตต์เหมาะสมกับความจำเป็นในการใช้งานและขนาดของครอบครัว
# เลือก ซื้อรุ่นที่มีคุณภาพและมาตรฐานการผลิต เพราะจะทนทานต่อการใช้งาน ปลอดภัย และประหยัดไฟได้ดีกว่า อย่าลืมตรวจสอบเรื่องบริการหลังการขายและการรับประกัน
# เลือก ซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีถังเก็บน้ำภายในตัวเครื่อง และมีฉนวนหุ้ม จะประหยัดไฟได้ร้อยละ 10-20 เครื่องทำน้ำอุ่นชนิดที่ไม่มีถังน้ำภายในจะสิ้นเปลืองพลังงานในการทำให้น้ำ ร้อนอยู่ตลอดเวลา
# เครื่องทำน้ำอุ่นที่ ปลอดภัยจะต้องมีเครื่องป้องกันไฟดูดหรือตัวตัดไฟติดตั้งอยู่ในตัวเครื่อง ถ้าซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาแล้วแต่ไม่มีตัวตัดไฟ สามารถซื้อเบรกเกอร์ที่ตัดไฟเกิน ไฟรั่ว ไฟดูด มาติดตั้งเพิ่มเติมได้
# สวิตช์ และส่วนประกอบต่างๆ ของเครื่องทำน้ำอุ่นต้องเป็นชนิดที่กันน้ำได้ ตัวเครื่องด้านหน้าอาจเป็นพลาสติก แต่ฝาหลังที่ยึดติดกับฝาผนังต้องเป็นโลหะ เพราะหากเกิดไฟรั่ว จะได้รั่วลงดินผ่านทางฝาหลังออกไปยังน็อตสกรูที่ยึดติดกับปูนฝาผนัง ช่วยลดอันตรายจากไฟรั่วได้
# เครื่องทำน้ำอุ่นทุกเครื่องต้องต่อสายดิน และสายดินต้องมีขนาดที่เหมาะสม เมื่อเกิดไฟรั่วจะได้รั่วลงดินได้สะดวกรวดเร็ว
# ควรติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้สูงกว่าฝักบัว เพื่อป้องกันน้ำเข้าเครื่องขณะอาบน้ำ ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟช็อตและไฟดูดได้
# ไม่ควรเปิดเครื่องตลอดเวลาขณะอาบน้ำหรือสระผม เนื่องจากสิ้นเปลืองทั้งน้ำและไฟฟ้า
# ไม่ควรปรับปุ่มความร้อนเกินความจำเป็น
แปลนบ้าน # ควรตรวจสอบอุณหภูมิน้ำสำหรับเด็ก คนชรา และคนป่วย เป็นพิเศษ
# หาก ใช้น้ำในจุดอื่นๆ พร้อมกัน แรงดันน้ำจะลดลง ทำให้น้ำจากเครื่องทำน้ำอุ่นไหลน้อยลง และอุณหภูมิน้ำเพิ่มสูงขึ้น กรณีนี้เครื่องไม่ได้เสีย ควรปรับอุณหภูมิน้ำอุ่นให้เหมาะสมโดยหมุนปุ่มปรับปริมาณน้ำ
# เมื่อใช้งานเสร็จแล้วควรปิดเครื่องทุกครั้ง อย่าเปิดสวิตช์ทิ้งไว้ จะสิ้นเปลืองไฟฟ้า
# ในกรณีเกิดฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ให้ปิดสวิตช์ตัดกระแสไฟฟ้าเข้าเครื่อง เพื่อป้องกันเครื่องเสียหาย
# ควรใช้เครื่องทำน้ำอุ่นเฉพาะวันที่มีอากาศเย็นหรือเท่าที่จำเป็น
# อย่า งอหรือพับสายฝักบัว เพราะจะทำให้สายฝักบัวชำรุดได้ ควรหมั่นทำความสะอาดฝักบัว เพราะอาจมีตะกอนไปอุดตันทางออกของน้ำ ทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานได้
# อย่าให้น้ำรั่วจากฝักบัว เพราะนอกจากจะเปลืองน้ำแล้ว จะทำให้เครื่องทำน้ำอุ่นทำงานมากกว่าปกติ สิ้นเปลืองไฟ
# เลือกใช้หัวฝักบัวชนิดประหยัดน้ำ จะประหยัดน้ำกว่าหัวฝักบัวธรรมดาร้อยละ 25-75 และควรตั้งระดับความแรงของน้ำไว้ที่ระดับปานกลาง
# ก่อนทำความสะอาดเครื่อง ต้องปิดเบรกเกอร์ควบคุมไฟฟ้าทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย
# การทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่อง ควรใช้ผ้านุ่มชุบน้ำบิดให้แห้งแล้วเช็ดทำความสะอาด ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีใดๆ ในการทำความสะอาด
# อย่านำผ้าเปียกชุ่มน้ำไปเช็ดทำความสะอาดหรือวางบนตัวเครื่อง หรือฉีดพ่นน้ำที่ตัวเครื่อง เพราะอาจทำให้เกิดไฟช็อตและไฟดูดได้
# หมั่นตรวจเช็คสวิตช์ป้องกันไฟรั่วไฟดูด ELCB อย่างน้อยเดือนละครั้ง
# หมั่น ตรวจสอบการทำงานของเครื่องให้มีสภาพดีอยู่เสมอ ตลอดจนตรวจดูระบบท่อน้ำและรอยต่ออย่าให้มีการรั่วซึม นอกเหนือจากนี้ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำที่แนบมากับเครื่องเมื่อเครื่องทำน้ำ อุ่นเกิดปัญหาในการใช้งาน สาเหตุเบื้องต้นอาจเกิดได้จากหลายกรณี
# ถ้า น้ำที่ออกจากเครื่องเป็นน้ำเย็นเพราะไม่มีกระแสไฟฟ้าป้อนเข้าสู่ขดลวดความ ร้อน สาเหตุอาจเกิดจากฟิวส์ขาด หรืออุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิเสียไม่ยอมให้ไฟผ่าน
# ถ้าไฟสัญญาณติดแต่ขดลวดความร้อนไม่ทำงาน น้ำไม่อุ่น สาเหตุอาจเกิดจากขดลวดความร้อนขาด หรืออุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิเสีย
# ถ้าน้ำจากเครื่องทำน้ำอุ่นร้อนหรือเย็นเกินไป สาเหตุอาจเกิดจากอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิทำงานผิดปกติอย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาช่างผู้ชำนาญซึ่งส่วนใหญ่จะมีฝ่ายบริการหลังการขาย ไม่ควรพยายามซ่อมเอง เพราะอาจมีอันตรายถึงชีวิต
# การ อาบน้ำอุ่นนั้นช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและผ่อนคลายความตึงเครียด ของกล้ามเนื้อได้ อย่างไรก็ตาม การอาบน้ำอุ่นเป็นประจำอาจทำให้ผิวแห้งได้ โดยเฉพาะเวลาที่อากาศหนาวเย็น ผิวของเราจะแห้งกว่าปกติอยู่แล้ว แนะนำให้ปรับอุณหภูมิน้ำอย่าให้อุ่นจนเกินไป และหลังอาบน้ำควรดูแลบำรุงรักษาผิวด้วยการทามอยส์เจอไรเซอร์ค่ะ
แปลนบ้าน
ที่มา : http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000137945

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ฮวงจุ้ยห้องนอน เพื่อการนอนหลับฝันดี

ฮวงจุ้ยห้องนอน เพื่อการนอนหลับฝันดี

ห้องนอน เป็นบริเวณที่เราใช้เวลาอยู่มากที่สุดในบ้าน ห้องนอนใหญ่ควรอยู่ห่างไกลประตูทางเข้าหลัก โดยเฉพาะ ถ้าสามารถจัดวางให้อยู่คนละมุมกับทางเข้าหลักจะดีมาก จะทำให้ห้องนอนใหญ่อยู่ห่างไกลจากสิ่งรบกวน
               ตำแหน่ง ของเตียง เตียงนอนควรจะอยู่ในตำแหน่งที่ผู้พักผ่อนสามารถมองเห็นผู้ที่เข้ามาในห้อง ได้อย่างสะดวก ตามหลักแล้วตำแหน่งของเตียง ควรอยู่บริเวณมุมตรงข้ามกับประตูทางเข้าห้องนอน ปลายเตียงไม่ควรชี้ตรงไปยังประตู ซึ่งจะเป็นลักษณะของการจัดวางหลุมศพของชาวจีนในโกดังเก็บศพ เปรียบเสมือนตำแหน่งของความตาย
               เตียง นอนไม่ควรวางอยู่ใต้คานเปลือย ซึ่งจะส่งผลให้ผู้พักผ่อนเกิดอาการเจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะ อวัยวะที่อยู่ใต้คานนั้น ตัวอย่างเช่น คานเปลือยที่วิ่งผ่านเตียงตรงหน้าอกของผู้พักผ่อนนั้น ผู้พักผ่อนมักจะมีอาการแน่นหน้าอกในขณะนอนหลับ เป็นต้น หัวเตียงควรจะติดผนัง แต่ไม่ควรวางเตียงติดผนังเกินสองด้าน ในกรณีที่ตั้งเตียงลอยๆ โดยไม่สัมผัสกับผนังใดๆ เลย จะส่งผลให้ผู้พักผ่อนรู้สึกไม่มั่นคง และต้องคอยระวังไม่ควรหันปลายเตียงให้ตรงกระจกเงา กระจกเงาที่ปลายเตียงจะสะท้อนพลังเข้าสู่ผู้พักผ่อน ส่งผลให้การพักผ่อนถูกรบกวนได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ประโยชน์จากกระจกเงาในห้องนอนมีมากมาย เราสามารถวางตำแหน่งกระจกเงาให้สามารถมองเห็นผู้ที่เข้ามาในห้องจากบนเตียง ได้
               ตำแหน่งของเตียงนอนควรเอื้อให้ผู้พักผ่อนสามารถเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้ แต่ต้องระวังการเปิดรับพลังชี่ (Shar หรือ ชี่ที่เลวร้าย) เข้ามาทางหน้าต่างด้วย การใช้ผ้าม่านช่วยในการปรับแสงและป้องกันมุมมองที่ไม่ดี จากภายนอกนับเป็นสิ่งที่ช่วยได้มาก
เตียง นอนไม่ควรวางข้างตู้ขนาดใหญ่ เนื่องจากจะส่งผลรบกวนต่อผู้พักผ่อนเหมือนมีคนเฝ้ามองเราอยู่ อย่างไรก็ตาม เตียงนอนควรจะอยู่ในตำแหน่งของสุขภาพหรืออายุยืนยาวซึ่งเชื่อกันว่าเป็น ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด

               ใครที่อยากหลับฝันดีลองนำหลักการเหล่านี้ไปจัดห้องนอนของตัวเองก็ดี อย่างน้อยก็จะได้ปรับเปลี่ยนห้องนอนในสไตล์ใหม่ที่ไม่จำเจ บ้าง                    

การรวมตัวเข้าหากันของพลัง

1. หลีกเลี่ยงเตียงที่มีโครงสร้างเป็นเหล็ก เหล็กจะสะท้อนคลื่นแม่เหล็กที่ส่งมาจากเครื่องไฟฟ้าต่างๆ
2. เลือกใช้ผ้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติสำหรับอุปกรณ์ในห้องนอนทุกชิ้นของคุณ
3. อย่าวางสิ่งใดๆที่เกี่ยวกับงานไว้ในห้องนอน หนังสือหัวเตียงควรจำกัดไว้เพียงหนึ่งถึงสองเล่ม
4. หลีกเลี่ยงการใช้ไฟจำพวกสปอตไลท์ (Spot Light) หรือไฟตรงตำแหน่งเหนือศรีษะ ตรงบริเวณหัวเตียง การให้แสงสว่างควรเป็นแสงที่นุ่มนวลกระจายมาจากดวงไฟต่างๆทั่วห้อง


  ข้อพึงรู้สำหรับห้องนอน
1. วาง ตำแหน่งของเตียงอย่างระมัดระวัง เพื่อว่าคุณจะได้ไม่นอนในแนวเดียวกับประตู คุณควรจะนอนอยู่ไกลทแยงออกไปทางด้านขวาเมื่อเปิดประตูเข้ามา เตียงควรจะมองมายังประตูห้องนอนได้อย่างชัดเจน และควรจะอยู่ชิดผนังมากกว่าที่จะเป็นที่โล่งหรือหน้าต่าง
2. หลีกเลี่ยงตำแหน่งเตียงที่อยู่ใต้คาน หรือตู้ติดผนังที่ยื่นออกมาจากกำแพง
3. ควรจะมีหัวเตียงสำหรับเตียง อาจจะเป็นหัวเตียงที่ทำจากไม้กลึงมนหรือบุผ้าก็ได้
4. ถ้าเตียงของคุณหันหลังให้ประตูเข้า วางกระจกเงาไว้ที่ผนังฝั่งตรงข้าม เพื่อที่ว่าจะได้เห็นถึงผู้ที่กำลังเข้ามาในห้อง
5. ควรจะมีกระจกเพียงบานเดียวในห้องนอน กระจกรูปทรงกลมจะเหมาะสมที่สุด เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของ        

แปลนบ้าน

ที่มา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เทคนิคเลือกวัสดุ ตกแต่งบ้าน

เทคนิคเลือกวัสดุ ตกแต่งบ้าน

ห้องชุดในคอนโดฯ
มักมีข้อจำกัดเกี่ยวกับการตกแต่งพอสมควร โดยเฉพาะห้องชุดที่มีขนาดเล็ก คงไม่ใช่นึกจะซื้อเฟอร์นิเจอร์อะไรมาใส่ก็ได้ หรือนึกจะแต่งยังไงก็ได้ ขืนทำอย่างนั้นห้องสวย ๆ งาม ๆ อาจรกขึ้นมาในทันที แต่ การแต่งห้องเล็ก ๆ ให้ดูดีก็ใช่ว่าจะยากเย็นจนเกินไปนัก แค่อาศัยใช้เทคนิคเล็กๆ น้อย ๆ ความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถบันดาลให้ห้องเล็ก ๆ ดูดี ดูกว้างขึ้นมาได้แล้ว เป็นการเอาทฤษฎีทางด้านศิลปะมาประยุกต็ใช้ อาทิ

การใช้สีในงานตกแต่ง โดยเน้นสีโทนสว่าง ที่กลมกลืนกันทั้งเฟอร์นิเจอร์ ผนัง พื้น ของตกแต่ง จะช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้น

การ เลือกพื้นผิวของพื้นผนัง ฝ้าเพดานที่เรียบร้อย ไม่มีลวดลายละลานตา ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง สบายตากว่าห้องที่เล่นลวดลายพื้นผิววัสดุ หรือใช้สีทึบ ๆ เข้ม ๆ

การเลือกใช้รูปทรง และเส้นสายของเฟอร์นิเจอร์ ก็มีส่วนทำให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่างได้ เช่น ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดพอเหมาะ ไม่ใหญ่เทอะทะ ทึบตัน หรือให้วัดสุผิวเรียบมัน สะท้อนแสง จะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นได้ โดยเฉพาะการใช้กระจก ทั้งกระจกเงาสะท้อนติดผนังห้อง และกระจกในตกแต่งตามบานประตู หน้าต่าง เป็นต้น ตกแต่งภายใน แต่งบ้าน แต่งคอนโด บ้าน คอนโด ตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์

สี พื้นผิว รูปทรงของวัสดุหรือเฟอร์นิเจอร์ สามารถลวงตาทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้ แปลนบ้าน

แค่ความรู้ทฤษฎีศิลปะเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีติดตัวก็อาจช่วยให้คุณได้ห้องชุดที่สวยงาม พร้อมอวดใครต่อใครที่มาเยือน แปลนบ้าน

ขอบคุณข้อมุลจาก Built-Room.com

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

แต่งครัวยังไงให้ อินเทรนด์

แต่งครัวยังไงให้ อินเทรนด์

ทำไมต้องแต่งครัว ครัวนั้นสำคัญไฉน จึงต้องใส่ใจ และแต่งครัวยังไงให้ อินเทรนด์ "ห้องครัว" เป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมพบปะ สังสรรค์ "ห้องครัว" เป็นสื่อรักเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนสนิท เพียง สองเหตผลข้างต้น คงพอพูดได้ว่า ... "ห้องครัว" ของครอบครัวยุคใหม่ปัจจุบัน ไม่ได้เป็นเพียงแค่ห้องประกอบอาหารอย่างเดียว แปลนบ้าน

 แต่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มความสุขของสมาชิกในครอบครัวและ ช่วยทำให้บ้านมีความสุขยิ่งขึ้น เมื่อ.."ห้องครัว" ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน เทรนด์ในการตกแต่งห้องครัวได้ รับความสนใจมากขึ้นในกลุ่มลุกค้าคนไทย ..."ห้องครัว" จึงมีวิวัฒนาการเรื่อยมา โดยสะท้อนออกมาในรูปแบบของนวัตกรรมด้านการออกแบบดี ไซน์ ตลอดจนวัสุดและเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตที่มีความทันสมัยและปลอดภัยมากขึ้น RCD Kitchen Design Center ทองหล่อ 15 โชว์รูมและศูนย์ให้คำปรึกษาด้านการตกแต่งห้องครัวครบ วงจรที่ กิตติ เริ่มเจริญดี ผู้บริหาร RCD Kitchen บอกว่าจุดเด่นอยู่ที่ความเป็น Customize Design ที่ตอบรับทุกความต้องการของลูกค้าด้วยดีไซน์ที่ลงตัวและวัสดุที่มีคุณภาพ รวมถึงการให้บริการที่ครบวงจร ด้วยทีมดีไซน์เนอร์ที่คอยให้คำปรึกษาด้านการออกแบบแก่ลูกค้า "ด้วยความเป็น In house factory ทำให้ควบคุมขั้นตอนการผลิตได้เต็มที่ วางใจได้เรื่องของความปลอดภัย" กิตติ กล่าวย้ำ แปลนบ้าน ใน ช่วงอัพเดทเทรนด์แต่งห้องครัวให้ทันสมัยลงตัว ขอหยิบเอาคำแนะนำของ อาจารย์เอกพงษ์ ตรีตรง กูรูด้านงานดีไซน์และออกแบบตกแต่ง ภายใน ว่า.. สไตล์การตกแต่งห้องครัวยุค นี้ เน้นการเปิดพื้นที่โล่งในตำแหน่งที่ใกล้กับโต๊ะอาหารและส่วนพักผ่อน เพื่อให้เกิดการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเคาน์เตอร์กลางครัว หรือที่เรียกว่า Kitchen Island มาช่วยเพิ่มพื้นที่ในการปรุงอาหารให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังเน้นออกแบบให้ ดูเรียบไม่รกสายตา และคำนึงเรื่องของฟังก์ชั่นใช้งานเป็นหลัก ส่วนวัสดุที่ใช้ต้องคำนึงถึงความสะอาด คงทน ง่ายต่อการรักษา และมีความปลอดภัย คำแนะนำของอาจารย์เอกพงษ์ ที่นำมาฝาก คงพอเป็นเกร็ดความรู้ เสริมไอเดียของคุณๆ ผู้อ่านได้บ้าง แต่ทั้งนี้คงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน

ขอบคุณข้อมุลจาก http://www.bangkokbiznews.com แปลนบ้าน

วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ฟอร์นิเจอร์ห้องน้ำ สำหรับบ้านคุณ

ฟอร์นิเจอร์ห้องน้ำ สำหรับบ้านคุณ



ห้องน้ำเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับบ้านของคนเรา เพราะใช่งานอยู่ทุกวัน แล้วคุณจะตกแต่งห้องน้ำบ้านของคุณแบบไหนเลือกเฟอร์นิเจอร์อย่างไรจึงจะเข้า กับบ้านของคุณ วันนี้เอามาให้ชมดูก่อนครับว่าชอบหรอป่าว ลองเลือกดูครับ



กระจกบานใหญ่กำลังดี เฟอร์นิเจอร์สีขาวและประดับด้วยแจกันกิ่งไม้สวยมากครับ

เรียบๆดีครับ กระจกมีไฟส่องด้วย และอ่างล้างหน้าก็ไม่ใหญ่เกิ
นไปกำลังดีครับ แปลนบ้าน



ตู้เก็บของสีน้ำตาลเข้มๆ บวกกับเฟอร์นิเจอร์สีขาว เข้ากับพรหมและพื้นไม่สีขาวเลยครับ



อันนี้สีออกคล้ำๆหน่อย แต่ชอบตรงที่มีที่ไว้สำหรับแขวนของ สะดวกสบายดีครับ



มีกระจกบานยาวเล็ก และมีชั้นไว้วางของเป้นชั้นๆ อ่างล้างหน้าก้อไม่ใหญ่เกินไปกำลังดีเลยครับ สำหรับคนที่อยู่คนเดียว



อ่างล้างหน้าเป็นไม้ มีลวดลายหน่อยสวย แบบเรียบๆครับ

ถ้าใครชอบหรือห้องน้ำแบบไหนที่คุณต้องการ มาดูด้านนี้ได้ครับ http://community.akanek.com/story/2010/10/What-kind-of-bathroom-you-want

แปลนบ้าน

วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

จัดวางห้องรับแขก ตามหลักฮวงจุ้ย

จัดวางห้องรับแขก ตามหลักฮวงจุ้ย

การจัดห้อง รับแขกภายในบ้านหรือภายในสำนักงาน ให้ถูกต้องตามหลักการทางฮวงจุ้ย และเพื่อเสริมสร้างบารมี พร้อมทั้งนำความมั่งมีศรีสุขมาสู่เจ้าของบ้าน

ห้องรับแขกจัดได้ว่าเป็นด่านแรกที่ทุกท่านใช้เป็นสถานที่ในการต้อนรับ บุคคล ภายนอกที่เข้ามาเยี่ยมเยียนนั้น เราจึงมักให้ความสำคัญในการตกแต่ง และประดับประดาสิ่งของให้ดูสวยงามตามรสนิยมของเจ้าของบ้าน ซึ่งบางท่านอาจชอบ แบบหรูหรา บางท่านอาจชอบขรึม ๆ บางท่านก็ชอบแบบคลาสิค หรือชอบแบบทันสมัยไฮเทค เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะจัดห้องรับแขกใด ก็มักจะเป็นสิ่งที่สะท้อนบุคลิกและรสนิยมของเจ้าของบ้านทั้งสิ้น ดังนั้น ห้องรับแขกจึงควรเป็นห้องหนึ่งที่เจ้าของบ้านสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนได้

หลักการจัดห้องรับแขก
1. ห้องรับแขกควรอยู่ในตำแหน่งและทิศทางที่รุ่งเรือง ซึ่งจะต้องสมพงษ์กับพื้นดวงของเจ้าบ้าน (ท่านต้องขอให้ผู้รู้คำนวณทิศทางที่เป็นมงคลของท่าน ซึ่งจะมีหลักการคำนวณ โดยใช้ศาสตร์ของโป๊ยหยี่สี่เถียวหรือดวงจีน นั่นเอง สำหรับท่านที่ไม่ทราบอาจขอให้ทางคอลัมน์คำนวณให้ได้ เป็นรายบุคคลไป เนื่องจากหากจะนำมาอธิบายในที่นี้ คงต้องเล่ารายละเอียดกันยืดยาวพอสมควร)
2. สีสันที่ใช้ในการตกแต่งห้องรับแขก ควรเป็นสีที่นำความรุ่งเรืองและเป็นสิริมงคลรวมทั้งต้องถูกโฉลกต่อตัวท่าน เช่นกัน (ก็คงต้องอาศัยการคำนวณเป็นรายบุคคล เช่นเดียวกับ ข้อ1)
3. ห้องรับแขกควรจัดให้อยู่ในบริเวณที่เห็นได้เด่นชัด เนื่องจากจะบ่งบอกว่าท่านยินดีต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความเต็มใจ
4. ควรหลีกเลี่ยงการนำฉากมาตั้งไว้ตรงประตูทางเข้า เนื่องจากไม่สวยงามแล้วยังเป็นการสกัดกั้นการไหลเวียนของกระแสชี่ หรือกระแสของโชคลาภที่จะไหลเวียนเข้ามาภายในบ้านท่านด้วย
5. ภายในห้องรับแขกไม่ควรติดกระจกหรือวัสดุสะท้อนแสง เนื่องจากจะกลายเป็นสะท้อนแขกของท่านออกไป
6. บริเวณด้านหลังห้องรับแขกไม่ควรเป็นห้องนอน หรือบันไดวน
7. หลีกเลี่ยงการจัดวางห้องรับแขกอยู่บริเวณคานของตัวบ้าน หรือใต้ชั้นลอย เนื่องจากจะสร้างความรู้สึกอึดอัด และแขกจะรู้สึกถูกเหยียบย่ำอยู่ตลอดเวลา
8. สำหรับท่านที่ชอบเลี้ยงปลาสวยงาม อาจตกแต่งห้องรับแขกด้วยตู้ปลา แต่ควรระมัดระวังเรื่องตำแหน่งของที่ตั้งตู้ปลาด้วย เนื่องจากในทางฮวงจุ้ย ตู้ปลาเปรียบเสมือน "น้ำ" และ "น้ำ" ในทางฮวงจุ้ยมีบทบาทสำคัญในการเก็บกักกระแสชี่ หรือกระแสมงคล ดังนั้นการวางตู้ปลาจึงควรอยู่ในตำแหน่งไชอุย หรือตำแหน่งโชคลาภ ซึ่งได้แก่ตำแหน่งที่อยู่ตรงข้ามประตู หรือด้านที่ทะแยงกับมุมของประตู้ห้องรับแขกทั้ง 2 ด้าน
นอกจากนี้ตู้ปลาควรตั้งอยู่ในตำแหน่งรุ่งเรืองที่ถูกโฉลกกับพื้นดวงชะตาของเจ้าของบ้านอีกด้วยก็จะดีมาก
9. ตำแหน่ง "ไชอุย" หรือตำแหน่งรับโชคลาภของห้องรับแขกไม่ควรทำเป็นประตู เนื่องจากโชคลาภที่ไหลเวียนเข้ามาจะเก็บไว้ไม่อยู่ จะไหลออกไปหมด เปรียบเสมือนท่านทำงานหาเงินมาได้มากเท่าไหร่ก็จะมีแต่ทางใช้จ่ายไปมาก ไม่สามารถเก็บสะสมออมทรัพย์ได้
10. หลอดไฟที่จะนำมาประดับเพดาน ควรเป็นรูปทรงกลม เปรียมเสมือนดวงดาวบนท้องฟ้า ที่ส่งสกาวสดใสระยิบระยับเต็มไปหมด ซึ่งจะมีส่วนช่วยส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าให้ท่านอย่างต่อเนื่องไม่มีที่ สิ้นสุด
11. หากท่านต้องการวางตู้โชว์ภายในห้องรับแขก ที่ควรจัดวางในต่ำแหน่งที่รุ่งเรืองและส่งเสริมพื้นดวงของเจ้าของบ้านด้วย เช่น ถ้าเจ้าของบ้านขาดธาตุน้ำก็ควรวางตำแหน่งตู้โชว์ทางทิศเหนือ ซึ่งหมายถึง ธาตุน้ำ เป็นต้น
12. ชุดรับแขกหรือโซฟา ก็ควรจัดให้เรียงรายอยู่ในบริเวณเดียวกับตู้โชว์ โดยอาศัย หลักการที่ว่าเจ้าของขาดธาตุใด หรือต้องการเสริมธาตุใดก็ควรวางโซฟาไว้ในทิศทางนั้น ๆ ด้วย เนื่องจากการจัดวางตู้โชว์และโซฟา เปรียบเสมือนภูเขาที่รับลมจากน้ำ และเป็นพลังหยิน คือความนิ่งนั่นเอง จะบ่งบอกถึงความมั่นคงหนักแน่นที่จะช่วยเสริมบารมีให้แก่เจ้าของบ้านได้ ในขณะเดียวกัน ประตูเข้าห้องรับแขกก็เปรียมเสมือนพลังหยาง เป็นการรับลมจากฟ้า หรือรับกระแสชิ่ให้ไหลเวียนเข้ามาด้วยเช่นกัน

 การจัดห้องรับแขกสำหรับบุคคลที่ต้องการธาตุน้ำมาเสริมในดวงชะตาก็ควรจัด ให้อยู่ในมุมของทิศเหนือ หรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งหมายถึงธาตุน้ำและธาตุทองตามลำดับ

        ในบ้านแต่ละหลัง ตำแหน่งสำคัญ ๆ ที่เจ้าของบ้านไม่ ควรละเลยในการจัดวางให้ถูกหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยอยู่เย็นเป็นสุข ประสบแต่โชคลาภ ซึ่งบุคคลทั่วไปมักให้ความสำคัญกับการจัดตำแหน่งห้องนอน ห้องพระ แต่มีอีกหลาย ๆ ท่านที่ละเลยการจัดวางตำแหน่งไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น หากท่านพอมีความรู้พื้นฐานในเรื่องนี้บ้างพอสมควรแล้ว เชื่อว่าหากท่านจัดห้องรับแขกได้ถูกหลักการตามที่กล่าวมาข้างต้นได้แล้ว ท่านก็จะมีที่อยู่อาศัยที่จะบันดาลความสุข ความเจริญรุ่งเรืองและความอบอุ่นมาสู่ครอบครัวของท่านได้ชั่วนิรันดร์

แปลนบ้าน

วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์

การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์

เฟอร์นิเจอร์ ทุกชนิดต้องได้รับการทำความสะอาดตามสมควรและอย่างถูกวิธีจึงจะสามารถยืดอายุ การใช้งานของเครื่องใช้ได้ โดยสามารถแบ่งตามวัสดุที่ใช้ผลิตได้ดังนี้

1.  ผ้าบุนวม วัสดุบุจำพวกผ้าเหมาะกับสภาพอากาศร้อนแต่ก็มีปัญหาเรื่องความชื้นและสกปรก ค่อนข้างง่ายและหากสกปรกแล้วก็ยากที่จะทำความสะอาดให้เหมือนเดิม แต่ผู้ผลิตบางรายได้พ่นเคลือบน้ำยาที่ลดการเกาะตัวของฝุ่นและลดการดูดซึมของ น้ำ ซึ่งช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น โดยที่การทำความสะอาดทั่วไปสำหรับเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้สามารถทำได้โดยการ  ดูดฝุ่นหรืออาจใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด หรืออาจใช้เครื่องพ่นไอน้ำทำความสะอาดได้ด้วยเพราะจะฆ่าเชื้อโรคและไรฝุ่น และยังช่วยให้เนื้อผ้าคืนตัว การใช้น้ำยาซักแห้งหรือแอมโมเนียเจือจางก็ได้แต่ควรระมัดระวังในการใช้และ ควรทดสอบในบริเวณเล็กๆก่อน และซับอย่างเบามือและห้ามขัดถูอย่างเด็ดขาด แต่ทางที่ดีควรเลือกชนิดถอดซักได้เพราหากต้องการบุผ้าใหม่จะเสียค่าใช้จ่าย ที่สูงมาก
2. ไม้ ควรใช้แปรงปัดฝุ่นไฟฟ้าสถิตย์ปัดฝุ่นแล้วลงน้ำมันรักษาเนื้อไม้บ้างเป็น ครั้งคราว แต่หากเป็นไม้ขัดมันต้องระวังไม่ให้โดนน้ำเด็ดขาดทำได้แค่เพียงใช้ผ้าหมาด เช็ดถูและลงน้ำมันได้บ้างแต่ไม่ควรลงบ่อยจนเกินไปเนื่องจากจะทำให้ฝุ่นเกาะ ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ควรระวังเรื่องของของร้อนและเย็นเช่น แก้วน้ำ เนื่องจากอาจสร้างความเสียหายหรือรอยด่างให้กับเนื้อไม้ได้  วิธีแก้ปัญหาเฟอร์นิเจอร์ไม้โป่งออกมาคือ ให้วางผ้าชื้นๆ ลงบน รอยที่โป่ง ใช้เตารีดร้อนๆ ทับบนผ้า จะทำให้คืนสู่สภาพเดิม  วิธีขจัดรอยขีดข่วนบนเฟอร์นิเจอร์ไม้คือ ให้ใช้ผ้าแตะยาขัด รองเท้าที่สีเดียวกับไม้ แล้วถูตรงรอย แล้วใช้ผ้าขัดต่ออีกครั้ง รอยขีดข่วนก็จะหายไป  ไวนิล ใช้น้ำยาอเนกประสงค์เช็ดทำความสะอาดโดยที่หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์หรือน้ำมัน ก๊าด และห้ามใช้แผ่นขัดถูเนื้อหยาบเด็ดขาด
3. การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์เบาะ การดูดกลิ่น ให้ใช้ผงฟูหรือแป้งข้าวโพดโรยบนพรม โดยใช้อัตราส่วน 1 ถ้วย ต่อพื้นที่ห้องขนาดกลาง ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก แต่ถ้ากลิ่นติดแน่นให้โรยทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วจึงดูดออก การขจัดคราบเลือด ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นเช็ดเบา ๆ จนกว่าจะหมด คราบเหนียวเหนอะหนะ ใช้ผงฟูทาทับรอยเปื้อน แล้วใช้มือถูเบา ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงเช็ดออก ทาซ้ำอีกถ้ารอยเปื้อนยังไม่หมด  คราบไขมัน ใช้แป้งข้าวโพดทาทับรอยเปื้อน ทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมง จากนั้นเช็ดออก  คราบเขม่าหรือเถ้าถ่าน ให้ใช้เกลือทาทับบาง ๆ แล้วเช็ดออก คราบปัสสาวะของเด็ก หรือสัตว์เลี้ยง เช็ดด้วยน้ำธรรมดา 1 ครั้ง จากนั้นใช้น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับสบู่เหลว 1 ช้อนชา เช็ดถูบริเวณรอยเปื้อน ทิ้งไว้ 15 นาที จึงเช็ดออก
กระจก

4. เหล็ก และกระจก ใช้น้ำยาฉีดกระจกในการทำความสะอาดในส่วนของกระจกควรหลีกเลี่ยงผ้าที่เป็นขน
5. การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้าฝ้าย ให้ใช้แปรงทาสี ด้ามใหม่ปัดตามซอกมุมเฟอร์นิเจอร์ไปพร้อมกันกับการทำความ สะอาดเฟอร์นิเจอร์ทุกครั้ง
6. การรักษาเฟอร์นิเจอร์โลหะไม่ให้เป็นสนิมได้ง่ายคือให้เคลือบ โลหะด้วยขี้ผึ้งขัดรถ เมื่อจำเป็นต้องเอาเฟอร์นิเจอร์โลหะ ไว้ตากน้ำค้าง จะได้ไม่ขึ้นสนิมได้ง่าย

ในการใช้ยาขัดเฟอร์นิเจอร์ไม่ควรใช้ประเภท เช่น น้ำมัน ขี้ผึ้ง บ่อยๆ เพราะอาจจะทำให้ผิวเฟอร์นิเจอร์เกิดความเสียหายได้ง่าย  วิธีลบคราบดวงๆ ที่ติดบนเฟอร์นิเจอร์คือ ให้ใช้จุกไม้ก๊อกถู ถ้าไม่ ออกให้ใช้นิ้วมือแตะยาสีฟันผสมขี้เถ้าบุหรี่ถูอีกครั้ง จากนั้นใช้ ผ้าชุบน้ำเช็ดรอยเปื้อนซ้ำอีกครั้ง เท่านี้ก็สามารถรักษาเฟอร์นิเจอร์ให้อยู่กับบ้านเราไปนานๆได้แล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.buphachat.com/board/

วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แต่งครัวยังไงให้ อินเทรนด์

ทำไมต้องแต่งครัว ครัวนั้นสำคัญไฉน จึงต้องใส่ใจ และแต่งครัวยังไงให้ อินเทรนด์

 ห้องครัว เป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมพบปะ สังสรรค์ "ห้องครัว" เป็นสื่อรักเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนสนิท เพียง สองเหตผลข้างต้น คงพอพูดได้ว่า ... "ห้องครัว" ของครอบครัวยุคใหม่ปัจจุบัน ไม่ได้เป็นเพียงแค่ห้องประกอบอาหารอย่างเดียว แต่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มความสุขของสมาชิกในครอบครัวและ ช่วยทำให้บ้านมี ความสุขยิ่งขึ้น เมื่อ.."ห้องครัว" ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน เทรนด์ในการตกแต่งห้องครัวได้ รับความสนใจมากขึ้นในกลุ่มลุกค้าคนไทย ..."ห้องครัว" จึงมีวิวัฒนาการเรื่อยมา โดยสะท้อนออกมาในรูปแบบของนวัตกรรมด้านการออกแบบดีไซน์ ตลอดจนวัสุดและเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตที่มีความทันสมัยและปลอดภัยมากขึ้น RCD Kitchen Design Center ทองหล่อ 15 โชว์รูมและศูนย์ให้คำปรึกษาด้านการตกแต่งห้องครัวครบ วงจรที่ กิตติ เริ่มเจริญดี ผู้บริหาร RCD Kitchen บอกว่าจุดเด่นอยู่ที่ความเป็น Customize Design ที่ตอบรับทุกความต้องการของลูกค้าด้วยดีไซน์ที่ลงตัวและวัสดุที่มีคุณภาพ รวมถึงการให้บริการที่ครบวงจร ด้วยทีมดีไซน์เนอร์ที่คอยให้คำปรึกษาด้านการออกแบบแก่ลูกค้า "ด้วยความเป็น In house factory ทำให้ควบคุมขั้นตอนการผลิตได้เต็มที่ วางใจได้เรื่องของความปลอดภัย" กิตติ กล่าวย้ำ ใน ช่วงอัพเดทเทรนด์แต่งห้องครัวให้ทันสมัยลงตัว ขอหยิบเอาคำแนะนำของ อาจารย์เอกพงษ์ ตรีตรง กูรูด้านงานดีไซน์และออกแบบตกแต่งภายใน ว่า.. สไตล์การตกแต่งห้องครัวยุค นี้ เน้นการเปิดพื้นที่โล่งในตำแหน่งที่ใกล้กับโต๊ะอาหารและส่วนพักผ่อน เพื่อให้เกิดการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเคาน์เตอร์กลางครัว หรือที่เรียกว่า Kitchen Island มาช่วยเพิ่มพื้นที่ในการปรุงอาหารให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังเน้นออกแบบให้ดูเรียบไม่รกสายตา และคำนึงเรื่องของฟังก์ชั่นใช้งานเป็นหลัก ส่วนวัสดุที่ใช้ต้องคำนึงถึงความสะอาด คงทน ง่ายต่อการรักษา และมีความปลอดภัย คำแนะนำของอาจารย์เอกพงษ์ ที่นำมาฝาก คงพอเป็นเกร็ดความรู้ เสริมไอเดียของคุณๆ ผู้อ่านได้บ้าง แต่ทั้งนี้คงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน

ขอบคุณข้อมุลจาก http://www.bangkokbiznews.com

วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ข้อแนะนำก่อนกู้ซื้อบ้าน

ข้อแนะนำก่อนกู้ซื้อบ้าน 

ในการซื้อบ้าน สำหรับ ผู้ที่ไม่มีเงินก้อนหลังจากการผ่อนดาวน์บ้าน ซึ่งเป็นจำนวนประมาณ 10-20% ของราคา บ้าน ส่วนที่เหลืออีก 80-90% จึงต้องพึ่งเงินกู้จากธนาคารโดยนำบ้านที่ซื้อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน

ในการกู้เงินซื้อบ้านนี้มีปัจจัยและเงื่อนไขที่ผู้กู้ควรพิจารณาก่อน เช่น
- จะกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่หรือลอยตัวดี 
-  วงเงินที่จะกู้  
- ระยะเวลากู้  
- ค่าใช้จ่ายในการกู้
-  จำนวนเเงินงวดต่อเดือนที่ต้องผ่อนชำระ
- เงื่อนไขการให้บริการต่างๆของธนาคารนั้นๆ  

เหล่า นี้เป็นสิ่งที่ผู้กู้ควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจ แล้วนำข้อมูลที่ได้มาเปรียบเทียบระหว่างสถาบันการเงินแต่ละแห่ง แล้วจึงเลือกสถาบันการเงินที่ให้ประโยชน์กับคุณมากที่สุด ในส่วนของ อัตราดอกเบี้ย ที่จะเลือกใช้ก็เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อบ้านบางท่านอาจจะคิดไม่ตกว่าจะเลือกแบบบ้าน แปลนบ้าน แบบไหนดี เพราะในปัจจุบันสถาบันการเงินแต่ละแห่งก็มีให้เลือกมากกว่า 1-2 ทางเลือก

อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเสนอในตลาดขณะนี้จะมีทั้งแบบ
1. อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating rate loan)
2. อัตราดอกเบี้ยคงที่   (Fixed rate loan)
3. อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่งและปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา (Rollover Mortgage Loan) ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ดังนี้

          อัตราดอกเบี้ยลอยตัว หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดมาแล้ว แต่จะไม่อยู่คงที่ตลอดระยะเวลากู้ ธนาคารสามารถปรับเปลี่ยนขึ้น-ลง ตามที่เห็นสมควร ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องในระบบการเงิน หรือตามต้นทุนการเงินของธนาคาร บางปีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอาจมีการปรับเปลี่ยนไปถึง 4-5 ครั้ง แต่บางปีก็แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็มี
แต่ในการคำนวณเงินงวดแม้ธนาคารฯ ส่วน ใหญ่จะคิดอัตราดอกเบี้ยตามประกาศจริง แต่มีบางธนาคารใช้วิธีการคำนวณเงินงวดต่อเดือนของลูกค้า โดยคิดเพิ่มจากอัตราดอกเบี้ยจริงบวกด้วย 1-3% ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้กู้ในกรณีดอกเบี้ยเพิ่มในภายหลัง หรือหากดอกเบี้ยไม่เพิ่มหรือลดลงเงินงวดที่ผู้กู้จ่ายเกินไว้ก็ จะไปตัดเงินต้นมากขึ้น และทำให้หนี้เงินกู้หมดเร็วขึ้นกว่าที่ระบุในสัญญากู้ เช่น กู้ 30 ปี อาจจะเหลือ 27- 28 ปี เป็นต้น

          ส่วนอัตราดอกเบี้ยคงที่ ที่เสนอในตลาดในขณะนี้แบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ ธนาคารจะกำหนดดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นๆ 1-5 ปี จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งอาจจะสูงหรือต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยคงที่เดิมก็ได้ขึ้นอยู่กับ สถานการณ์ตลาดเงินและต้นทุนทางการเงินของธนาคารในขณะนั้น การปรับเปลี่ยน (อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว) นี้อาจจะส่งผลกระทบต่อเงินงวดที่ผู้กู้ชำระในแต่ละเดือนได้ โดยเฉพาะหากมีการปรับตัวสูงขึ้นในภายหลัง จนทำให้เงินงวดต่อเดือนที่ผู้กู้ผ่อนชำระกับธนาคารไม่พอ ชำระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น อาจจะต้องเพิ่มเงินงวดต่อเดือนในภายหลังจนเกินที่จะรับภาระไหว
ฉะนั้นผู้กู้เงินแบบอัตราดอกเบี้ยลอยตัวในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงต้องระวังในกรณีนี้ด้วย อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลากู้ ธนาคารจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่หรือตายตัวตาม ประกาศของธนาคารในขณะที่ขอกู้ โดยไม่ปรับเปลี่ยนขึ้นลงตามสถานการณ์ตลาดเงินหรือต้นทุนทางการ เงิน ดังนั้นเงินงวดที่ชำระในแต่ละเดือนก็จะคงที่ตลอดระยะเวลากู้ 5-10-15-20-30 ปี ตามแต่ผู้กู้จะเลือก

          อัตราดอกเบี้ยคงที่ในช่วงแรกจากนั้นเป็นลอยตัว อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันไดในช่วงแรกจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ย ลอยตัว จะกำหนด ดอกเบี้ยแบบคงที่ในระยะสั้นประมาณ 1-5 ปี แต่ในระหว่างนั้นอาจกำหนดคงที่แบบขั้นบันได เช่น คงที่ 4 ปี ปีแรก = 1%,ปีที่ 2 = 2.5%,ปีที่ 3 = 3.5%,ปีที่ 4 = 4.5% หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยเป็นต้น อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่งและปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา ธนาคารจะกำหนดดอกเบี้ยคงที่ ระยะหนึ่ง เช่น 3 ปี หรือ 5 ปี และจะปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา 3 ปี หรือ 5 ปี ตลอดระยะเวลาตาม สัญญากู้ 

ฉะนั้นผู้กู้แต่ละรายที่กู้ต่างเวลากันหรือในช่วงต่อครั้งที่ 2,3,4 ฯลฯ อัตราดอกเบี้ยจึงไม่เท่ากันอาจจะต่ำหรือสูงกว่า เป็นต้น ในส่วนของผู้กู้แนะนำให้รวบรวมอัตราดอกเบี้ยและประเภทเงินกู้ของสถาบันการ เงินหลายๆ แห่ง เมื่อรวบ รวมประเภทเงินกู้แบบต่างๆ ของแต่ละสถาบันการเงินแล้ว ผู้กู้ก็นำอัตราดอกเบี้ยจริงมาเปรียบเทียบว่าที่ ไหนให้เท่าใด สูงต่ำกว่ากันอย่างไร ซึ่งหลักโดยทั่วไปหากเป็นเงินกู้ประเภทเดียวกัน ดอกเบี้ยต่ำที่สุดก็จะ เป็นประโยชน์กับผู้กู้มากที่สุด เพราะดอกเบี้ยที่ต่ำจะทำให้เงินงวดรายเดือนที่ผ่อนชำระต่ำไปด้วย

วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การเลือกซื้อบ้านมือสอง

การเลือกซื้อบ้านมือสอง


   หลายท่านที่กำลังคิดจะสร้างบ้านสัก หลัง และกำลัง ค้น ค้น ค้น ค้นหาข้อมูลเบื้องต้นอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ และเริ่มพบว่าเป็นเรื่องยุ่งยากมากกว่าที่คิด กับการจะหาที่ดินว่างๆ สักแปลงที่อยู่ในทำเลดีๆ เพื่อที่จะปลูกบ้านสักหลัง จะให้ใครออกแบบดี จะเลือกสถาปนิกอิสระจะได้มีเวลาคุยกันเยอะๆ หรือจะเลือกบริษัทออกแบบใหญ่ที่มีชื่อเสียง จะใช้ผู้รับเหมารายไหนดี เจอรายชื่อเต็มไปหมด แต่รายไหนละน่าเชื่อถือ ถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ สำหรับใครสักคนที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ก็จำเป็นจะต้องหาข้อมูลให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าในสมัยปัจจุบันเราอาจมีโอกาสได้ผ่อนบ้านได้ เพียงหลังเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามด้วยชีวิตที่เร่งรีบ และดิ้นรนแบบในปัจจุบัน ต้องทำงานทุกวันไม่ค่อยมีเวลามานั่งศึกษา แต่มีความจำเป็นต้องหาบ้านสักหลังควรจะทำอย่างไร

ลองดู “บ้านมือสอง” ไหมครับ ผมเชื่อหลายคนอาจจะเริ่มมีคำถามแล้วใช่ไหมครับเมื่อผมพูดถึงบ้านมือสองว่า บ้านมือสองดีอย่างไร และมันจะดีกว่าบ้านที่ปลูกใหม่ได้อย่างไร ลองดูครับ ข้อแรก “สร้างเสร็จก่อนขาย” แน่นอนครับ เห็นสภาพจริงๆ ของบ้านก่อนที่เราจะจ่ายเงินของเราออกไป ข้อที่สอง เข้าอยู่ได้ (เกือบ) ทันที ไม่ต้องเสียเวลารอโอนที่ รอเขียนแบบ รอแล้วรอเล่า ข้อที่สาม อาจจะได้ทำเลที่คุณพอใจก็ได้ เพราะบัจจุบันการจะหาที่ดินเปล่าสักแปลงในทำเลที่คุณชอบบางครั้งหายากกว่าป้ายประกาศขายบ้านซะอีก ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ บ้านมือสอง ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยใช่ไหมครับ ถ้าสนใจ งั้นลองดูนะครับว่าจะหาข้อมูล บ้านมือสอง ได้จากที่ไหนบ้าง

แหล่งข้อมูลในการค้นหา “บ้านมือสอง”

1. นิตยสารหรือหนังสือซื้อ-ขายบ้าน เท่าที่ผ่านตาก็มีอยู่ด้วยกันหลายเล่ม หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป ในกลุ่มของนิตยสาร จะให้ข้อมูลในด้านทำเลที่ตั้ง และราคา เป็นหลัก ส่วนในกลุ่มที่เป็นหนังสือก็จะมีการเพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการเลือก ซื้อ หรือการตรวจสอบสภาพบ้านเข้าไป เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ นิตยสารหรือหนังสือซื้อ-ขายบ้านเหล่า นี้ บางครั้งบางคราว บางเล่มอาจจะสัมพันธ์กับเว็บไซต์ บางเล่มอาจเริ่มจากการตีพิมพ์เป็นหนังสือมาก่อนเมื่อมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้น จึงเริ่มทำข้อมูลเป็นดิจิตอล และอาจจะขยายต่อไปเป็นเว็บไซด์ เพื่อตอบสนองความต้องการในการรองรับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น บางเล่มอาจจะมีที่มามาจากเว็บไซด์ แต่ต้องการเข้าถึงผู้อ่านให้มากขึ้นจึงนำข้อมูลบางส่วนมาจัดพิมพ์เป็น หนังสือเพื่อจำหน่าย

2. เว็บไซด์ซื้อ-ขายบ้าน ซึ่งจะเป็นระบบการซื้อ-ขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ข้อดีของเว็บไซด์ซื้อ-ขายบ้าน คือ มีระบบสืบค้นข้อมูลทำให้สามารถหาบ้านที่ ตรงกับความต้องการของเราได้อย่างรวด เร็ว อย่างเช่น สามารถระบุทำเลที่ตั้ง ขนาดพื้นที่ ราคา บางเว็บไซด์สามารถ ระบุได้ถึงจำนวนห้องนอน หรือห้องน้ำที่ต้องการ บางเว็บไซด์ผู้จัดทำเว็บไซด์จะเป็นผู้จัดการเรื่องการซื้อขายให้ ผู้ขายต้องเป็นผู้ส่งข้อมูลของบ้านที่ ต้องการขายไปให้ผู้จัดทำเว็บไซด์ ผู้ซื้อก็จะต้องติดต่อผ่านทางผู้จัดทำเว็บไซด์ ซึ่งจะมีความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับหนึ่ง แต่บางเว็บไซด์ก็จะเป็นการฝากซื้อ-ฝากขายโดยอิสระ ซึ่งไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือ

www.ban4u.com
www.baansbuy.com
www.bcp.co.th
www.homeandi.com
www.homedd.com
www.hometophit.com
www.thaihomeonline.com

Keyword: บ้านมือสอง

3. เลือกซื้อบ้านจาก ธนาคาร ธนาคารหลายแห่งมักจะนำสินทรัพย์ที่หลุดจำนอง มาให้ประมูลหรือขายทอดตลาด สามารถติดต่อขอข้อมูลได้โดยตรงกับธนาคาร (ธนาคารบางแห่งมักจะชอบจัดทำเป็นแผ่นพับหรือหนังสือแจกให้กับลูกค้า) และในบางโอกาสเมื่อมีการจัดงานมหกรรมซื้อ-ขายบ้าน ธนาคารต่างๆ ก็มักจะไปออกร้าน ซึ่งก็เพิ่มความสะดวกให้ผู้สนใจ ทำให้เราสามารถเปรียบเทียบข้อมูลและเงื่อนไขของแต่ละธนาคารได้ในคราวเดียว กัน ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำหมุนเวียนกันไป นอกจากนั้นธนาคารเหล่านี้ก็จะรวบรวมข้อมูลสินทรัพย์เหล่านี้ไว้ในเว็บไซด์ ของธนาคาร ซึ่งนับว่าความน่าเชื่อถือทางด้านข้อมูลมากที่สุด

ธนาคารกรุงเทพ www.bangkokbank.com
ธนาคารกรุงไทย www.ktb.co.th
ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา www.krungsriproperty.com
ธนาคารกสิกรไทย www.kasikornbank.com
ธนาคารทหารไทย www.tmbbank.com
ธนาคารไทย พาณิชย์ www.scb.co.th
ธนาคารนครหลวงไทย www.scib.co.th
ธนาคารอาคาร สงเคราะห์ www.ghb.co.th

ขอบคุณข้อมูลจาก บ้านและสวน www.baanlaesuan.com


วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

การใช้งาน ผนังกันฝน

ผนังกันฝน


หากมองย้อนกลับ ไปในสมัยที่มีการเผยแพร่ความรู้เรื่องภาวะเรือนกระจก หรือ Greenhouse effect ในแวดวงการก่อสร้างก็เช่นเดียวกัน ได้มีการตื่นตัวเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม และมีความพยายามในการคิดค้นวัสดุทดแทนไม้ซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น อิฐมวลเบา ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นเพื่อใช้เป็นวัสดุก่อที่มีน้ำหนักเบา และในเวลาต่อมา ได้มีการพัฒนาวัสดุแผ่นเพื่อใช้ทำผนังภายนอกทดแทนการใช้ไม้ วัสดุอย่างเช่น แผ่นเซลโลกรีต จึงถูกคิดค้นขึ้นเพื่อให้สามารถนำไปใช้ทำผนังภายนอกทดแทนการใช้ไม้ วัสดุเหล่านี้ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ถึงแม้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงก็ตาม เพราะนอกจากจะช่วยลดการตัดไม้แล้ว ยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายของโครงสร้างลง เพราะมีน้ำหนักเบากว่าการใช้อิฐมอญ


ผนังก่ออิฐมวลเบา ผนังเซลโลกรีต

แต่ปัจจุบันพบว่านักออกแบบบ้านส่วน ใหญ่จะเลือกใช้วัสดุทดแทนเหล่านั้น กับตำแหน่งที่อยู่ภายในอาคารเท่านั้น อย่างเช่น ผนังภายใน และนิยมหันกลับไปใช้อิฐมอญตามเดิม สาเหตุสืบเนื่องมาจาก วัสดุเหล่านั้นจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำฝนได้ไม่ดีเท่าที่ควร อีกทั้งวัสดุแผ่นเหล่านั้นจะมีรอยต่อระหว่างแผ่น เมื่อใช้งานไปเป็นระยะเวลาประมาณ 1-2 ปี วัสดุยาแนวระหว่างรอยต่อของแผ่นก็จะเริ่มเสื่อมสภาพ เกิดปัญหาเรื่องน้ำรั่วซึมเข้าสู่ภายในอาคาร จำเป็นต้องมีการยาแนวใหม่เป็นระยะๆ ซึ่งทำให้เสียเวลาและสิ้นเปลื้องค่าใช้จ่าย



จากข้อจำกัดดังกล่าวจึงได้มีผู้คิดค้น ระบบผนังกันฝน หรือ Rain Screen ซึ่งผนังชนิดนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งวัสดุยาแนวรอยต่อภายนอก แต่ใช้ระบบผนังสองชั้นที่มีช่องว่างตรงกลางระหว่างผนังแทน แบ่งเป็น 2 แบบบ้านด้วยกัน คือ



1.ผนังกันฝนแบบบ้านระบาย น้ำ-อากาศ ผนังชนิดนี้จะใช้แผ่นวัสดุ 2 ชั้น สำหรับทำผนังภายนอกยึดเข้ากับโครงตามแนวตั้ง ด้านบนเปิดช่องว่างเพื่อให้อากาศไหลออกเมื่อมีน้ำซึมผ่านเข้ามา ผนังระบบนี้จะยอมให้น้ำซึมผ่านแผ่นวัสดุชั้นนอกเข้ามาได้ แต่ไม่สามารถผ่านแผ่นวัสดุชั้นที่สองซึ่งเป็นฉนวนกันน้ำ และสามารถระบายน้ำออกบริเวณด้านล่างได้



2.ผนังกันฝนแบบบ้านความกดอากาศสมดุล ผนังแบบบ้านที่สอง ผนังแบบบ้านนี้จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับแบบบ้านแรก แต่มีการออกแบบบ้านแผ่น วัสดุให้สามารถปรับความดันได้อย่างอิสระ เพื่อให้ความกดอากาศเท่ากันกับภายนอก ทำให้น้ำฝนไม่ซึมเข้ามาภายใน เมื่อไม่มีน้ำฝนเข้ามาภายใน ผนังชั้นในจึงไม่จำเป็นต้องเป็นผนังกันน้ำ



ในปัจจุบัน สำหรับต่างประเทศเราสามรถพบเห็น ระบบผนังกันฝน ที่ว่านี้ได้ตามอาคารพักอาศัยทั่วๆไป แต่สำหรับประเทศไทยอาจจะพบเห็นได้น้อย นอกจากอาคารสาธารณะขนาดใหญ่บางอาคารเท่านั้น แต่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นระบบผนังกันฝนที่ว่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเนื่องจากจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันฝนและความชื้นที่ดีกว่าระบบผนัง สำเร็จรูปในปัจจุบันแล้ว ยังสามารถประยุกต์ใช้ระบบผนังกันฝนกับสไตล์การออกแบบบ้านที่นิยมใช้วัสดุแผ่น ขนาดเล็กมาสร้างให้เกิดลวดลายบนผนังได้อีกด้วย


ขอบคุณข้อมูลจาก บ้านและสวน www.baanlaesuan.com

วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การเลือกซื้อบ้านใหม่

สำหรับคนที่อยากได้บ้านสร้างใหม่นั้น หลายๆท่านอาจจะลังเล ว่าจะเลือกซื้อบ้านโครงการ หรือว่าจ้างสถาปนิกมาออกแบบบ้านให้ ดี ในบทความนี้ ผมจะเปรียบเทียบ บ้านจัดสรร(บ้านโครงการนั่นละครับ) กับบ้านในฝัน(บ้านที่จ้างสถาปนิกออกแบบ) ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงข้อดี ข้อเสีย ที่แตกต่างกัน เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่อยากมีบ้านเป็นของตนเอง
 
 

บ้านจัดสรร

บ้านในฝัน(บ้านสร้างเอง

 ทำเลที่ตั้งของบ้าน  ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เพราะโครงการส่วนใหญ่มักจะใช้เป็นจุดขายของโครงการ  เลือกทำเลได้อย่างอิสระ ตามที่ต้องการ
 ขนาดพื้นที่ของที่ดินและตัวบ้าน  มีจำกัดไว้ตามที่โครงการจัดสรรให้ สามารถเลือกได้ตามงบประมาณและความชอบส่วนตัว  สามารถเลือกได้อย่างอิสระเช่นกัน แต่ต้องคำนึงถึงงบประมาณ เนื่องจากที่ดินที่จะซื้อมาสร้างบ้าน หากซื้อมากเกินไป งบประมาณสำหรับสร้างบ้านอาจจะลดลง และได้บ้านไม่ตรงกับที่ฝันไว้
 แบบบ้าน แปลนบ้านและรูปร่างหน้าตาภายนอก  เลือกได้ตามที่โครงการกำหนดไว้ให้ แต่ก็มีบ้านอีกหลายหลังที่หน้าตาเหมือนบ้านคุณ  เลือกได้อิสระตามใจในแบบที่ฝันไว้ จะมี home theater ไว้ในห้องน้ำก็ยังได้ แค่บอกความต้องการของคุณให้กับสถาปนิก คุณจะได้บ้านที่มีหลังเดียวในโลก ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร
 มาตรฐานงานก่อสร้าง  จะดีหรือไม่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับเจ้าของโครงการว่าควบคุมคุณภาพได้ดีแค่ไหน ซึ่งอาจมีการหมกเม็ดของผู้รับเหมา ดูภายนอกอาจจะมั่นคง สวยงาม แต่ส่วนที่เรามองไม่เห็น เช่นโครงสร้างใต้ดิน อาจจะทำให้เศร้าภายหลังได้  ตามมาตรฐานของผู้รับเหมาที่เจ้าของบ้านว่าจ้าง ถ้าจะให้ดีว่าจ้างผู้ควบคุมงานก็จะมั่นใจได้มากขึ้น
 ความยุ่งยากในการประสานงาน  ค่อนข้างน้อย เพราะส่วนใหญ่จะสร้างเสร็จแล้ว ไม่เหลือความยุ่งยากให้ปวดหัวมากนัก  ค่อนข้างมาก เพราะต้องทำตั้งแต่เลือกทำเล ซื้อที่ดิน ว่าจ้างสถาปนิก ขออนุญาตก่อสร้าง หาผู้รับเหมามาประมูลงาน เปรียบเทียบราคา ทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง ตรวจงานก่อสร้างตามงวดงาน และเบิกจ่ายค่าก่อสร้างตามงวดเงิน
 วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง  ตามที่โครงการกำหนดไว้ให้  เลือกได้อิสระตามงบประมาณและความชอบ ตั้งแต่สุขภัณฑ์ ไปจนถึงหลังคา พาสถาปนิกไปเดินเลือกซื้อด้วยกันได้เลย
 ราคาบ้าน  สามารถเลือกได้ตามงบเพราะราคากำหนดไว้ชัดเจนแล้ว  ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุ ถ้ารสนิยมสูง อาจจะได้บ้านราคาแพงกว่าบ้านจัดสรรมาก ในขนาดบ้านที่เท่ากัน


แหล่งที่มา:
http://www.simplythaiproperty.com/index.php?option=com_content&view=category&id=19:2009-05-22-08-01-53&layout=blog&Itemid=9

วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การเลือกซื้อบ้านมือสอง ต้องดูอะไรบ้าง

การเลือกซื้อบ้านมือสอง ต้องดูอะไรบ้าง

ในการเลือกซื้อนั้นต้องดูอะไรบ้าง จุดไหนสำคัญ จุดไหนควรระวัง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผมนึกถึงกรรมวิธีการเลือกซื้อบ้านมือสอง ซึ่งคงมีหลายท่าน กำลังจะตัดสินใจที่จะเลือกซื้ออยู่เป็นแน่ และการเลือกซื้อบ้านมือ สองเองก็มีความคล้ายคลึงกับการเลือกซื้อรถมือสองที่ ผมได้มีโอกาสอ่านใบโฆษณาเชิญชวนมา เจ้าของที่ขายสินค้าย่อมโฆษณาถึงเฉพาะข้อดีของสินค้าโดยไม่กล่าวถึงข้อเสีย หรืออาจจะกล่าวถึงแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นหากหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการเลือกซื้อ บ้านก็เป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยครับ

ขั้นตอนแรก ควรสอบถามประวัติของบ้านจาก เจ้าของเดิมให้เรียบร้อยเสียก่อน เช่น สร้างเมื่อใด ใครเป็นผู้สร้าง ผู้ที่ทำการก่อสร้างนั้นมีที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ในปัจจุบันหรือไม่ มีใบอนุญาตก่อสร้างหรือไม่ มีแบบก่อสร้างหรือพิมพ์เขียวที่ถูกต้องหรือไม่ และอาจสอบถามจากเพื่อนบ้านที่อยู่ในละแวกเดียวกันเกี่ยวกับบ้านที่เลือกซื้อ เช่น ประวัติของเจ้าของบ้านเดิม หรือ เรื่องราวที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนั้นว่าดีหรือ ไม่ดีเพื่อความเป็นอยู่ที่สุข สบายของท่านและบรรดาสมาชิกในบ้านของท่านในอนาคตด้วยครับ

ขั้นตอนที่สอง เป็นการตรวจสอบด้วยสายตาของท่านเองซึ่งมองจากภาพกว้าง ๆ โดยรอบไปสู่ความละเอียดถี่ถ้วนในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่

- สภาพแวดล้อมรอบ ๆ บ้าน เช่น บ้านตั้ง อยู่บริเวณที่ลุ่ม น้ำสามารถท่วมขังได้หรือมีมลภาวะจากเสียง แสง และกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือไม่ มีโรงงานตั้งอยู่ใกล้หรือเปล่าต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นต้น
- สภาพโดยรวมของตัวบ้าน ซึ่งการสร้างบ้านที่ ดีนั้นควรอยู่ในแนวดิ่ง ไม่เอียง คานและพื้นไม่แอ่นตัวมากจนเห็นได้ชัด มีร่องรอยการซ่อมแซมหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจอาจจำเป็นต้องหาสถาปนิกและวิศวกรในแขนงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาช่วยตรวจสอบ
- ตรวจสอบสภาพรอยร้าวในผนังบ้านเกิด ในลักษณะใด เป็นแบบแตกลายงาหรือรอยแตกในแบบ สะเปะ สะปะ หรือไม่ แต่ถ้าพบว่ามีรอยร้าวเอียง ทแยงมุมจากเสาถึงคาน หรือ จากพื้นถึงคาน หรือรอยร้าวในแนวดิ่งจากพื้นถึงคาน ควรหาวิศวกรโยธามาตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าโครงสร้างและส่วนประกอบหลัก ๆ ของบ้านยังแข็งแรงอยู่เพราะลักษณะการแตกร้าวดังกล่าวถือว่าอยู่ในขั้นก่อให้ เกิดอันตรายได้ครับ

การเลือกซื้อบ้านมือสองนั้นมีข้อควรระวังซึ่ง ถือว่าเป็นหัวใจหลักของการ พิจารณาเลือกซื้อบ้านมือสอง นั่นคือ การตรวจสอบรอยร้าวในคานและเสา อันเป็นโครงสร้างส่วนที่สำคัญที่สุดเรื่องความทนทาน แข็งแรงของอาคารบ้านเรือน หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีรอยร้าวในคานและเสาเกิดขึ้นก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจ นะครับ ตั้งสติให้มั่นแล้วดูว่ารอยร้าวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นรอยร้าวประเภทใด ถ้าเป็นรอยร้าวเล็ก ๆ สั้น ๆ หรือรอยร้าวคล้าย ๆ รอยบนหลังเต่า ก็จงเข้าใจว่าสาเหตุของรอยร้าวนี้เกิดขึ้นเนื่องจากปูนที่ใช้ฉาบระหว่างการ ก่อสร้าง ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อความแข็งแรงหรือรากฐานความมั่นคงของบ้านแต่อย่างใด แต่ถ้ารอยร้าวนั้นเป็นรอยร้าวในแนวดิ่งที่กึ่งกลางของคานบ้าน เพื่อความมั่นใจและความเป็นอยู่ที่ไม่มีผลกระทบในอนาคตก็ควรรีบปรึกษาวิศวกร โยธาครับ

ลำดับต่อมาเป็นการสังเกตดูสภาพพื้นของบ้านหลังนั้น ๆ ซึ่งในหลักการของการพิจารณานั้น บ้านมือ สองที่อยู่ในสภาพที่ดี ลักษณะของพื้นไม่ควรมีรอยร้าวเป็นแนวยาวที่กึ่งกลางของแผ่นพื้น และถ้าพื้นคอนกรีตกร่อนจนเห็นเหล็กเสริมเป็นแนวยาว มีสนิมจากเหล็กเป็นแนวยาว หรือเห็นเป็นตาราง แสดงว่าพื้นมีสภาพไม่ค่อยดี หากตรวจสอบแล้วพบว่าบริเวณพื้นนั้นแอ่นเป็นแอ่งตรงกลาง แล้วสงสัยว่าเกิดจากอะไร อย่าพิรี้พิไรยืนพิจารณาให้เสียเวลา ขอให้ลองกระโดดหรือขย่มน้ำหนักดู ถ้ารู้สึกว่าพื้นอ่อนหรือยวบลง (ไม่ใช่กระเทือนหรือกระเด้ง) แสดงว่าผิดปกติ ให้นำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษาวิศวกรโยธาก่อนตัดสินใจซื้อและเพื่อความชัดเจน ในการวิเคราะห์ก็ควรเตรียมภาพถ่ายของสถานที่ไปให้วิศวกรโยธาดูด้วย

การ ตรวจสอบระบบการใช้งานของ ประปา และไฟฟ้า ภายในบ้าน ซึ่งนอกจากต้องอยู่ในสภาพการใช้งานได้ดีแล้ว เรื่องของความปลอดภัยก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นจึงมีวิธีการตรวจสอบความพร้อมของระบบภายในเหล่านี้ โดยต้องเริ่มจากการตรวจสอบที่บริเวณผนังของบ้านและใต้ท้องพื้น หรือ เพดานใต้ห้องน้ำว่ามีการรั่วหรือซึมของน้ำหรือไม่ วิธีการนั้นให้ตรวจสอบจากการลองปิดก๊อกทุกตัวภายในบ้านแล้วเช็คที่มิเตอร์ น้ำว่ายังเดินอยู่หรือไม่ ถ้าลองปิดก๊อกทุกตัวภายในบ้านแล้วมิเตอร์น้ำยังคงหมุนอยู่แสดงว่ามีน้ำรั่ว ให้รีบตรวจสอบหาจุดที่เป็นต้นเหตุของการรั่วเสียก่อน แต่ถ้าลองปิดก๊อกทุกตัวภายในบ้านแล้วกลับ ไปตรวจสอบมิเตอร์ ปรากฏว่ามิเตอร์น้ำไม่หมุน นั่นแสดงว่า ระบบของน้ำไม่เป็นปัญหาสามารถใช้งานได้ครับ ส่วนการตรวจระบบไฟฟ้า ไม่ถือเป็นเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อนแต่อย่างใดหลังจากที่ลองเปิดไฟแล้วหาก สว่างใช้งานได้ทุกดวงก็ถือว่าผ่าน แต่ก็ควรตรวจสอบให้ลึกซึ้งกว่านั้น นั่นคือ สภาพของสายไฟหรือหม้อแปลง หรือ ทุกส่วนที่เกี่ยวกับการใช้ไฟหากเป็นสภาพที่เก่ามากแล้ว เช่น สภาพความสมบูรณ์ของสายไฟว่าเสื่อมคุณภาพหรือไม่ ฉนวนที่หุ้มอยู่ภายนอกนั้นมีลักษณะแตก กรอบ หรือไม่ เพราะถึงแม้จะยังใช้งานได้อยู่ก็ไม่ควรประมาท เสียเวลาซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่แค่ครั้งเดียว ยังดีกว่ามานั่งเสียใจจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดภายหลังครับ

แหล่งที่มาของข้อมูล: แปลนบ้าน

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ฮวงจุ้ย แบบแปลนบ้านยากจน

ฮวงจุ้ย แบบแปลนบ้านยากจน


1. แบบแปลนบ้านที่อยู่ต่ำกว่าถนน มัก เกิดกับแบบแปลนบ้านที่สร้างมานาน และอยู่ติดถนน  คือถนนก็มีการถมสูงขึ้นสูงขึ้นแต่แบบแปลนบ้านไม่ได้ยกสูงขึ้น นานเข้าก็เลยต่ำจนต้องทำบันไดให้ก้าวลง  แบบแปลนบ้านลักษณะ นี้หากไม่ต่ำกว่าครึ่งฟุตยังถือว่าไม่ต่ำมาก หากมากกว่านี้จะเกิดสภาพเรียกว่าลาภล้น เหมือนน้ำท่วมปากคือเห็นลาภวิ่งไปมา แต่เอาไม่ได้ถนัด  วิธีแก้อย่างง่ายๆหากไม่ต่ำมาก คือต้องมีลานกว้างหน้าแบบแปลนบ้านสักหน่อย ภาษาจีนเรียกว่าเม็งตึ้ง เพื่อเอาไว้เป็นบริเวณกักเก็บพลัง  เพราะฉะนั้นแบบแปลนบ้านกรณีนี้ ควรมีเนื้อที่ระหว่างถนนกับทางเข้าแบบแปลนบ้านเป็นที่โล่งๆสักหน่อยจึงจะดี

2. แบบแปลนบ้านที่อยู่ใต้สะพาน มัก เกิดกับแบบแปลนบ้านหรือ ร้านค้าตึกแถวที่อยู่มาดีๆ ก็มีการตัดถนนทำสะพานผ่านหน้าร้าน กลายเป็นมองไม่เห็นหน้าร้านชั้นล่างไป  ในกรณีนี้ เราต้องยกระดับให้ชั้นที่อยู่เสมอถนนเป็นชั้นหลัก โดยทำให้ชั้นนั้นเด่นขึ้นมา  ขณะที่ชั้นที่อยู่โดนบันไดบังต้องไปใช้ในเรื่องรองๆลงไป

3. แบบแปลนบ้านที่อยู่สูงกว่าถนน มัก เกิดกับแบบแปลนบ้านที่สร้างแบบวางแผนล่วงหน้า คือกลัวน้ำท่วม จึงปลูกสูงกว่าถนน  และยังเป็นการเผื่อในอนาคตมีการทำถนนสูงขึ้น แบบแปลนบ้านจะได้ไม่เตี้ยลง  ในกรณีนี้หากไม่ได้สูงจนเกินไป ก็ไม่เป็นไร หากสูงมาก  จะกลายเป็นลาภเข้าแบบแปลนบ้านไม่ได้ คือปากอยู่สูงเกินไป กินลาภไม่ได้  แถมหากทำทางเชื่อมระหว่างถนนกับตัวแบบแปลนบ้านค่อนข้างลาดชัน จะทำให้แบบแปลนบ้านนี้มักจะเสียเงินทองโดยใช่เหตุอีก เพราะลาภใหม่นอกจากเข้าแบบแปลนบ้านไม่สะดวกแล้ว  ลาภในแบบแปลนบ้านยังจะไหลออกได้ง่ายๆอีก

4. แบบแปลนบ้านที่หน้าต่างหรือประตูมากเกินไป  กรณี นี้เห็นบ่อยมากๆกับ แบบแปลนบ้าน สมัย ใหม่ คือเข้าไปแล้วดูโปร่ง โล่งสบาย  คนสมัยใหม่ชอบกันมาก แต่สังเกตุไหมครับว่า คนสมัยใหม่มักนิยมใช้บริการสินเชื่อ เงินด่วนทันใจ อะไรพวกนี้กันเยอะๆ  ก็เพราะแบบแปลนบ้านแบบ นี้อยู่แล้วเก็บเงินไม่ค่อยอยู่หรอกครับ  สังเกตุสิครับว่าคนสมัยนี้ถึงจะหารายได้มาเยอะก็มีรายจ่ายเยอะเหมือนกัน  วิธีแก้ไขหากซื้อไปแล้ว คือพยายามอย่าเปิดหน้าต่างใช้หลายแบบแปลนบ้าน และรู้จักติดม่านช่วยด้วย

5. แบบแปลนบ้านที่ประตูหรือหน้าต่างอยู่ตรงข้ามกัน  เช่น ประตูหน้าแบบแปลนบ้าน ตรงหน้าต่างหลังแบบแปลนบ้าน  ประตูหน้าแบบแปลนบ้านตรงประตูหลังแบบแปลนบ้าน  ก็เข้าข่ายลาภเข้ามาแล้วไหลออกได้เร็ว เก็บเงินไม่อยู่เหมือนกัน  ให้พยายามปิดหน้าต่าง ใช้ผ้าม่านช่วย  หรือวางฉาก ตู้โชว์กั้นระหว่างกลางไว้
6. แบบแปลนบ้านที่รั้วรอบแบบแปลนบ้านโปร่ง มัก พบกับแบบแปลนบ้านเดี่ยว ที่ชอบทำแบบโชว์ความสวยของแบบแปลนบ้าน ใช้รั้วเตี้ย หรือรั้วไม้ระแนง หรือรั้วเหล็กตีเป็นซี่เล็กๆให้ดูโปร่งสบาย  อันนี้ก็กักเก็บลาภไว้ไม่ได้เหมือนกัน  หากจะทำรั้วแบบนี้  ทำได้เฉพาะด้านหน้า  ส่วนด้านอื่นต้องเป็นรั้วทึบเพื่อกักเก็บพลังไว้ หรือไม่ออกปลูกต้นไม้เป็นแนวรั้วแทนก็ได้

7. แบบแปลนบ้านที่เปิดประตูแล้วเจอบันได  แบบแปลนบ้าน พวกนี้มักจะทำให้เงินทองหามาแล้ว มีเรื่องต้องใช้จ่ายเสมอ เรียกว่าเก็บไม่อยู่  หลีกเลี่ยงได้ต้องเลี่ยง หากอยู่ไปแล้ว ให้หากฉากมากั้นหน้าบันได จะช่วยได้ระดับหนึ่ง

8.แบบแปลนบ้านที่พื้นที่บริเวณหน้าประตูเข้าแบบแปลนบ้านแคบ พลัง ปราณหรือชี่นั้น ต้องอาศัยบริเวณลานโล่งเพื่อเป็นบ่อพักพลังหรือกักเก็บพลัง ก่อนที่ไหลเข้าสู่ตัวแบบแปลนบ้าน หากแบบแปลนบ้านใดบริเวณพื้นที่หน้าประตูเข้าแบบแปลนบ้านแคบ ไม่เปิดโล่งหรือวางของรกรุงรัง หรือ มีต้นไม้สูง สวนหิน อยู่ตรงข้ามประตู จะทำให้พลังเข้าแบบแปลนบ้านไม่สะดวก  เมื่อแบบแปลนบ้านรับพลังไม่เต็มที่ คนในแบบแปลนบ้านย่อมไม่ได้รับพลังเต็มที่เช่นกัน

9.แบบแปลนบ้านที่แวดล้อมไปด้วยน้ำเสีย ขยะ สิ่งสกปรก อับ ชื้น พลัง ปราณหรือชี่ที่ดีนั้น จะชอบบริเวณโล่ง สะอาด หากแบบแปลนบ้านใดอยู่รายล้อมด้วยสิ่งเหล่านี้ จะเหน็ดเหนื่อยในการทำมาหากิน เพราะต้องฝืนกับกระแสที่จะไหลออก คือ นอกจากไม่เข้าแบบแปลนบ้านแล้ว ยังจะไหลออกไปอีก แบบแปลนบ้านแบบนี้ การกระตุ้นด้วย ฮวงจุ้ย เพื่อช่วยในการกักเก็บพลังไว้ให้ไม่หนีไป  ยามใดมีโอกาส ควรรีบย้ายไปที่อื่น

10. แบบแปลนบ้านที่ แวดล้อมไปด้วยที่รกร้าง ว่างเปล่า  สภาพ รกร้างว่างเปล่า คือไม่มีพลังชี่ในบริเวณนั้น เพราะฉะนั้นเวลาเราไปอยู่แล้ว เราจะเอาพลังโชคลาภจากที่ไหนมาล่ะ  หากจะมีมาก็ต้องกระตุ้นมากเป็นพิเศษเพื่อให้พลังมาหาเรา   หากเป็นหมู่แบบแปลนบ้านที่ร้างๆ แล้วมีแบบแปลนบ้านใดแบบแปลนบ้านหนึ่งมีฮวงจุ้ยที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ก็จะดึงดูดพลังชี่ให้ไปแบบแปลนบ้านหลังนั้นเป็นส่วนใหญ่ ก็ยิ่งแย่หนักเข้าไปอีก  หากเห็นหมู่แบบแปลนบ้านร้างแต่ขายราคาถูกๆ ต้องพึงสังวรไว้ว่า ของดีแต่ราคาถูกๆไม่มีในโลกนี้

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การตกแต่งห้องนอนหลากหลายสไตล์

การตกแต่งห้องนอนหลากหลายสไตล์

1. สวยเปลือยทันสมัย
    ความสวยงามทันสมัยที่แฝงมากับความดิบของพื้นผิวผนังคอนกรีต ได้รับความนิยมแพร่หลายในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสวยทันสมัย แต่ไม่ต้องการความเนี้ยบเรียบร้อยในสไตล์โมเดิร์นพื้นผิวไม่ราบเรียบของผนัง คอนกรีต มีสีสันและลวดลายที่น่าสนใจแตกต่างไปจากทุกมุมมองและตามสภาพแสง คุณสามารถเล่นกับพื้นผิวคอนกรีตเปลือยได้อย่างน่าสนใจโดยไม่ต้องพึ่งวัสดุ ตกแต่งชนิดอื่น ๆไม่ว่าจะเป็นการเว้นช่องวงกลมขณะก่อสร้าง การฉาบให้มีร่องริ้วรอยหรือการใช้แม่แบบหล่อทำให้เกิดลวดลายในตัว เช่น ลายผิวไม้จากแม่แบบไม้การใช้ผนังคอนกรีตเปลือยที่สวยเด่นเป็นพระเอกของห้อง นอนนั้น คุณไม่จำเป็นต้องตกแต่งด้วยของตกแต่งโทนสีอื่นๆ ที่อาจไปดึงความโดดเด่นไปจากผนังคอนกรีตได้ ควรเลือกใช้โทนสีขาว สีเทารวมทั้งสีของไม้ธรรมชาติที่ดูเป็นสีกลาง

2. โมเดิร์นมากประโยชน์
    ความสวยงามเรียบง่ายของสไตล์โมเดิร์นใช้เฟอร์นิเจอร์ทรงเรียบและน้อย ชิ้นในการตกแต่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความโปร่งสบาย แลดูไม่รกสายตา นิยมใช้สีขาวเป็นหลักการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นที่ลงตัว ทุกสิ่งทุกอย่างจะมีการออกแบบให้มีความสวยงามแบบเรียบง่าย ขณะเดียวกันมีประโยชน์ใช้สอยพื้นที่เก็บของเช่น ตู้เสื้อผ้า จะถูกออกแบบให้ดูกลืนหายราวกับเป็นผนังเรียบ ชั้นวางของถูกออกแบบให้มีเส้นสายเรียบง่ายอย่างมีจังหวะจะโคนดูสวยงามราวรูป ทรงกราฟฟิก นอกจากนี้ควรเพิ่มสีสันเติมไฮไลท์ให้ภายในห้องดูอบอุ่นสดใส อย่าปล่อยให้ห้องดูขาวโพลน แห้งแล้งและแข็งกระด้างจนเกินไปสามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้ของตกแต่ง เช่น แจกันหมอนอิง หรือภาพเขียน

3. สดใสง่ายดาย
    ปรับโฉมห้องนอนให้สวยงามสดใสหายน่าเบื่ออย่างง่ายดาย ด้วยการเล่นกับสีสัน เริ่มต้นด้วยการทาสีผนังอันเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของห้องเลือกสีที่คุณถูกใจ หรือวัดใจลองเล่นกับสีใหม่ๆสีที่เหมาะสมกับการพักผ่อนในห้องนอนคือสีโทนอ่อน สบายตา สีฟ้าอ่อน ช่วยให้รู้สึกสดใสร่าเริงในยามตื่นนอน สีเขียวอ่อนช่วยให้จิตใจผ่อนคลายหายเครียด สีชมพูอ่อนสดใสดูแล้วชื่นใจแต่ไม่ควรใช้เป็นสัดส่วนที่มากเกินไป อาจทำให้ห้องดูแล้วไม่ผ่อนคลาย สีม่วงอ่อน ช่วยผ่อ น ค ล า ย ไ ด้ดีเ ช่น เ ดีย ว กับ สีเ ขีย ว อ่อ นสีเหลืองดูอบอุ่นสบายใจ ช่วยให้ร่าเริง แต่ไม่ควรทาสีเหลืองทั้งห้อง อาจร่าเริงจนนอนหลับไม่ลงก็ได้

4. หรูเข้มวินเทจ
    ใครที่ชื่นชอบอารมณ์หรูหรา แต่ไม่ชอบความอลังการฟู่ฟ่าของสไตล์คลาสสิก คงต้องลองมาดูสไตล์ตกแต่งแบบวินเทจที่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์หรูหราแต่อบอุ่นคุ้น ตาราวกับบ้านคุณคุณปู่คุณย่า สไตล์วินเทจสวยโดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวประเภทเตียงโลหะดัดโค้งสวยหรู และเก้าอี้เดี่ยวไม้แกะสลักทรงอ่อนช้อยเน้นของตกแต่งโทนสีเข้มหลากหลาย โทนสีแดงสีน้ำตาล สีน้ำเงิน หรือสีดำ ตัดกับห้องสีขาวสว่างการตกแต่งสไตล์วินเทจอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน เพราะบรรดาเฟอร์นิเจอร์ทรงโบราณอาจชวนให้คนขวัญอ่อนนอนสะดุ้งทั้งคืน

5. อารมณ์คันทรี่
    การตกแต่งแนวคันทรี่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนจำนวนมาก และติดอันดับสไตล์ยอดนิยมตลอดกาล สวยงามด้วยโทนสีและเนื้อไม้ธรรมชาติ สะท้อนความอบอุ่นน่าพักผ่อน โดยมีการนำสีสันและลวดลายของของตกแต่งมาใช้ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ให้สดใสสวย งามมากขึ้นถ้าคุณชอบแนวเรียบง่าย ให้เลือกใช้ผ้าสีพื้นแนวธรรมชาติ หรือสีโทนอ่อน สำหรับอารมณ์สวยสะอาดแฝงความสนุกสนาน ควรเลือกใช้ลายตาราง และสำหรับคนที่ต้องการแซมความสวยหวานให้มองหาผ้าสวยลายดอกไม้

6. พักผ่อนสายกลาง
    การตกแต่งในห้องนอนมีบรรยากาศน่าสบายอย่างร่วมสมัย เน้นความลงตัวของโทนสี และเฟอร์นิเจอร์ทรงสบายตาช่วยให้ห้องนอนของคุณสวยทนเหนือกระแสนิยมทุกรูปแบบ กฎพื้นฐานของการตกแต่งแบบร่วมสมัยสายกลาง ดูอบอุ่นน่าพักผ่อน ในขณะที่สวยเรียบทันสมัย และสว่างไสวโล่งสบายตา คือการเลือกใช้โทนสีกลางของไม้ธรรมชาติ สีเทา และสีขาวเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ทรงเรียบง่ายมีลูกเล่นสวยมีสไตล์ ไม่ฟู่ฟ่าเกินไป รวมทั้งนำสีสันเข้ามาแต่งเติมเล็กน้อยเพิ่มความสดใสมากกว่าเป็นการสร้างจุด เด่น ห้องนอนลักษณะนี้มีบรรยากาศน่าพักผ่อน แม้จะดูเ รีย บ ง่า ย แ ต่ถ้า ดูกัน ลึก ซึ้ง แ ล้ว‘ไม่ธรรมดา’

วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ปัญหาน่ารู้เกี่ยวกับห้องน้ำ

ปัญหาน่ารู้เกี่ยวกับห้องน้ำ

ปัญหาในห้องน้ำสามารถแยกกล่าวถึงได้ 3 ประเด็น คือ
1. ปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างของห้องน้ำ
2. ปัญหาเกี่ยวกับสุขภัณฑ์และอุปกรณ์
3. ปัญหาเกี่ยวกับงานระบบของห้องน้ำ
ต่อไปนี้จะกล่าวถึงปัญหาที่พบบ่อยหรือน่าสนใจตามประเด็นทั้งสาม ดังนี้

ปัญหา เกี่ยวกับโครงสร้างของห้องน้ำ มักจะพบกับสภาพชำรุดหรือแตกร้าวของผนังและพื้น กรณีนี้เป็นได้กับส่วนอื่น ๆ ของตัวอาคาร เพราะเป็นเรื่องราวของโครงสร้าง คือ ฐานราก เสา และคาน

การ แก้ไข ต้องดูที่สาเหตุว่ามาจากส่วนใด แค่ถ้าเป็นพื้นผนังที่มีรอยร้าวไม่มากนัก ก็ใช้ผง water plug ผสมปูนซีเมนต์ยาแนวได้ ปัญหาเรื่องพื้นในห้องน้ำ มักจะมีการรั่วซึม เป็นเพราะพื้นหมดอายุหรือมีการทรุดตัวบ้าง หากเป็นมากต้องทุบออกแล้วเทพื้นใหม่ ถ้าเป็นพื้นชั้นบนถือเป็นเรื่องใหญ่ เพื่อพื้นชั้นบนมักจะหล่อติดต่ออยู่กับคานของห้อง หากพื้นร้าวแสดงว่าทำพื้นผิดวิธี ต้องรื้อทั้งหมดแล้วทำใหม่ หรืออาจใช้โครงเหล็กยึดที่ท้องคานรับตัวพื้นเอาไว้ แล้วแก้ไขรอยร้าวของพื้น

ปัญหา เกี่ยวกับสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ ส่วนใหญ่เป็นที่โถส้วม โถปัสสาวะ มีการอุดตันต้องแก้ไขที่สะดือและท่อระบายน้ำ ถ้าอุดตันให้ใช้ลวดแข็ง ๆ ทะลวงเข้าไปในท่อ เพื่อให้สิ่งอุตันหลุดออกมา หรือใช้โซดาไฟราดเพื่อสลายสิ่งอุดตันนั้นให้หลุดออก โถส้วมราดไม่ลง เพราะมีอากาศค้างอยู่ในท่อระบายของเสีย ต้องทำช่องระบายอากาศเพิ่มเติม หามีแล้วให้สำรวจดูว่าตันหรือไม่

ปัญหาการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐานก็ มีผลทำให้ โถสุขภัณฑ์มีการขยับตัวทำให้กลิ่นออกมาได้ ดังนั้นต้องหมั่นตรวจตรารอยเชื่อมต่อทั้งหลายระหว่างสุขภัณฑ์กับพื้น หรือกับท่อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หากพบก็ควรรีบซ่อมแซมด้วยการใช้ปูนซีเมนต์หรือปูนขาวอุดตามรอยต่อ แต่ถ้ามีรอยแตกมากก็ให้ใช้ปูนซีเมนต์ผสมกับคอนกรีตอุดตามรอยต่อนั้น ๆ

หาก เป็นห้องน้ำแบบมาตรฐานมักจะก่อเป็นบ่อน้ำ สำหรับตกอาบบุด้วยกระเบื้องเคลือบ หลายครั้งน้ำจะซึมผ่านตามแนวอิฐและแผ่นกระเบื้องเคลือบออกมา วิธีง่าย ๆ คือหารอยที่น้ำซึมออกมาแล้วใช้ปูนซีเมนต์ขาวอัดยาแนวในขณะที่น้ำต่ำจากแนว รั่วซึมนั้น นอกจากนี้ น้ำและความชื้นจะทำให้ผนังห้องอีกด้านหนึ่งสีบวม หรือกระดาษปิดผนังหลุดล่อน โดยเฉพาะผนังด้านที่ก่ออิฐประกอบเป็นบ่อน้ำดังกล่าว ดังนั้น ก่อนที่จะบุกระเบื้องเคลือบควรใช้วัสดุกันซึมทาก่อนเพื่อป้องกันการซึมของ น้ำ

หากเป็นกรณีที่ใช้อ่างอาบน้ำในห้องน้ำชั้นบน ก่อนวางอ่างให้ทำพื้นบริเวณที่จะวางด้วยการขัดมัน หรือใช้น้ำยากันซึม เพื่อป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมที่ใต้อ่างอาบน้ำลงมายังฝ้าเพดานด้านล่าง

พื้น หลุดล่อน ส่วนใหญ่จะเป็นกับพื้นกระเบื้องหรือโมเสก หรือพื้นหินในบางกรณี ส่วนใหญ่จะเกิดจากมีน้ำซึมลงเบื้องล่างทำให้ปูนที่ยึดกระเบื้องกับพื้น คอนกรีตของห้องน้ำเสื่อมสภาพ การแก้ไขต้องเลาะกระเบื้องเก่าส่วนที่หลุดและจะหลุดออกแล้วปูใหม่ตาม กรรมวิธี ปัจจุบันมีกาวติดกระเบื้องน่าจะให้ผลดีกว่าการปูแบบเดิม ๆ

อุปกรณ์ ต่าง ๆ หมดอายุหรือใช้งานไม่ดีเท่าทีปรากฏ เราจะเห็นว่าเป็นการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีราคาถูกไม่ได้มาตรฐาน เช่น ไม่มียางกันซึม ทำให้น้ำซึมจากหัวฉีดจากตัวก๊อก ก้านชัดโครกค้างหรือทำงานไม่ดีก็เป็นด้วยสาเหตุเดียวกัน ควรแก้ไขด้วยการใช้อุปกรณ์มาตรฐานชั้นดีมาแทน เวลาที่ไปซื้อก็ควรนำเอาอุปกรณ์เก่าไปเทียบรุ่นด้วยเพื่อป้องกันความผิดพลาด

ใน การใช้ก๊อกน้ำหรือวาล์วควบคุมการเปิด-ปิด น้ำ ทางที่ดีควรต่อวาล์วย่อย (Nipple) สำหรับปิด-เปิดน้ำในส่วนของก๊อกอ่างล้างหน้า ชักโครก สายฉีดชำระไว้โดยเฉพาะเผื่อเวลาที่มีการรั่วซึมหรือซ่อมแซมจะได้ปิดน้ำเฉพาะ จุดที่ต้องการซ่อมแซมเท่านั้น

ปัญหาเกี่ยวกับระบบท่อ โดยทั่วไปจะเป็นที่ระบบระบายน้ำทิ้ง เช่น ท่อตัน ท่อระบายน้ำไม่ทัน การใช้ท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว จะช่วยให้ระบายน้ำดีขึ้น ทำนองเดียวกัน ควรใช้ตะแกรงฝาท่อระบานน้ำแบบดักผงได้ป้องกันการอุดตัน ท่อหลุดก็พบได้เสมอ เนื่องจากเป็นท่อที่ใช้งานมานาน กาวเชื่อมท่อหมดอายุ ต้องทากาวใหม่ ทางที่ดีควรใช้กาวอย่างดี (เป็นกาวหลอด) สำหรับทาท่อน้ำ(พีวีซี) โดยเฉพาะตั้งแต่แรกติดตั้งหรือการซ่อมภายหลัง

ขอบคุณบทความจาก สำนักพิมพ์บ้านและสวน

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

บ้านที่ห้ามซื้อคือ บ้านที่มีห้องน้ำ ห้องสุขา อยู่กลางบ้าน

บ้านที่ห้ามซื้อคือ บ้านที่มีห้องน้ำ ห้องสุขา อยู่กลางบ้าน

หลักฮวงจุ้ยสืบต่อกันมานับพัน ๆ ปี กำเนิดมาตั้งแต่ยุคสมัยที่ยังไม่มีการบริหารจัดการของเสียจากร่างกายมนุษย์ ได้เช่นปัจจุบัน ดังนั้นในยุคสมัยหนึ่ง ห้องน้ำ ห้องสุขาจะอยู่นอกตัวบ้าน หรือแยกห้องสุขาออกจากห้องอาบน้ำ เพื่อป้องกันกลิ่นไม่สะอาดมารบกวน รวมทั้งป้องกันความอับชื้น และอันตรายจากเชื้อโรคต่างๆ


ตามหลักฮวงจุ้ยพื้นฐาน ที่หมายถึง การสำรวจตรวจสอบดูว่าเรื่องใด สิ่งใดเป็นอันตราย เป็นเภทภัยก็ให้หาทางป้องกัน และเรื่องใดสิ่งใดเป็นคุณก็ให้หาทางส่งเสริม นั่นจึงเป็นที่มาของกฎกติกา การจัดสรรให้ห้องน้ำ ห้องสุขา อยู่นอกบ้าน อยู่หลังบ้าน อยู่ทางทิศตะวันตกเพื่อรับแดด, ห้องน้ำ ห้องส้วม ห้ามอยู่กลางบ้าน และแน่นอนว่าห้ามเด็ดขาดไม่ให้อยู่ในพื้นที่ส่วนหน้าบ้าน

กฎกติกาดัง กล่าวก็ยังใช้กันอยู่มาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน ซึ่งห้องน้ำ ห้องสุขา กลายเป็นเสมือนห้องที่ไว้โชว์ญาติมิตรเพื่อนฝูงที่มาเยี่ยมเยือนแล้วก็ตาม

การพิจารณาห้องน้ำ ห้องสุขา จุดสำคัญเริ่มด้วยตำแหน่งที่ตั้ง

บ้านที่ห้ามซื้อคือ บ้านที่มีห้องน้ำ ห้องสุขา อยู่กลางบ้าน ตามความเชื่อโบราณบ้านที่มีห้องน้ำกลางบ้านจะทำให้คนอยู่อาศัยเจ็บไข้ได้ ป่วยบ่อย ๆ แต่คำว่ากลางบ้านในที่นี้หมายความถึงตรงกลางบ้านจริง ๆ ไม่ได้ติดผนังด้านใดด้านหนึ่ง เป็นเสมือนเกาะอยู่กลางบ้าน (ปัจจุบันไม่ควรมีใครทำห้องน้ำในตำแหน่งดังกล่าวแล้ว)

ส่วนห้องน้ำ ที่ชิดผนังด้านใดด้านหนึ่งแต่ค่อนข้างอยู่กลางบ้าน แทนที่จะไปอยู่ด้านหลังก็ควรพิจารณาให้รอบคอบเพราะใกล้จะเป็นข้อห้ามแล้ว เหตุผลคือ ห้องน้ำเป็นห้องที่ต้องการระบบระบายอากาศที่ดี ควรเป็นห้องที่ได้รับแสงแดดในการช่วยฆ่าเชื้อโรค ขจัดความอับชื้น ตำแหน่งกลางบ้านไม่สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าว เพราะนอกจากจะไม่ค่อยได้รับแสงแดดแล้ว ความสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ จากห้องน้ำก็จะกระจายสู่พื้นที่ใช้สอยโดยประมาณส่วนอื่น ๆ ของบ้านได้ง่าย ไม่เป็นผลดีของผู้อยู่อาศัย


หากเจอห้องน้ำในตำแหน่งดังกล่าว ต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนมากขึ้นว่า มีระบบระบายอากาศรองรับอย่างไรดีมากน้อยเพียงใด กระนั้นก็ตาม หากเลือกได้ควรเลือกที่อยู่อาศัยที่จัดพื้นของห้องน้ำ ห้องสุขาอยู่ด้านหลังจะดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด หรือทาวน์เฮ้าส์ ส่วนอาคารชุดพักอาศัยนั้น ห้องน้ำอาจจะอนุโลมอยู่ส่วนกลาง ๆ ได้ แต่ต้องดูระบบระบายอากาศให้ดี

มุมคิดสำหรับห้องน้ำที่มีระบบ พัดลมดูดอากาศขึ้นท่อระบายอากาศออกนอกตัวบ้านหรือนอกห้อง (ในอาคารชุด) เมื่อใช้ห้องน้ำแต่ละครั้งควรปิดประตูไว้ก่อน แต่เปิดพัดลมดูดอากาศไว้ เพื่อขจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ให้มากที่สุด

สรุปแล้วตำแหน่ง ที่ตั้งห้องน้ำ ห้องสุขา ให้อยู่ด้านหลังหรือค่อนไปด้านหลังดีที่สุด ห้องน้ำที่ตั้งอยู่ช่วงกลางของบ้านควรหลีกเลี่ยง ถ้าจำเป็นซื้อต้องดูเรื่องระบบระบายอากาศให้รอบคอบ

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553

บ้านและสวนแฟร์ 2010

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับงานแฟร์ บ้านและสวนแฟร์ 2010

ชื่องาน : บ้านและสวนแฟร์ 2010
ระยะเวลา : 30 ตุลาคม – 7 พฤศจิกายน 2553
สถานที่ : อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ผู้จัดงาน : นิตยสาร บ้านและสวน บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด(มหาชน)
ผู้เข้าชมงาน : สถาปนิก, มัณฑนากร, ภูมิสถาปนิก, ผู้รับเหมา, วิศวกร, สถาบันการศึกษา, นักลงทุน, ผู้ผลิตและบุคคลทั่วไป
ผู้ เข้าชมงานจากต่างประเทศ : ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ สเปน อิตาลี ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ลาว เวียดนาม พม่า ไต้หวัน ฮ่องกง

เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด งาน “บ้านและสวนแฟร์” 2010

จุใจ สินค้าครบหมวดกว่า 2,100 บู๊ธ พร้อมของแต่งบ้านดีไซน์เก๋ถึง 150 บู๊ธ
พร้อมพรั่ง ต้นไม้และของแต่งสวนกว่า 300 บู๊ธ
สร้างสรรค์ สะพานเหล็กสร้างจริง ดีไซน์ล้ำ สัมผัสพื้นดินเพียง 2 จุด เคารพธรรมชาติ
ตระการตา 10 สวนแห่งความจำ และ 20 สวนในตู้ปลา
ตื่นตา กับสวนผจญภัยแบบแฟนตาซีที่เนรมิตมาไว้ภายในงาน
เลือกช็อป แบบบ้านสวย แบบสวนจัดง่าย ราคาประหยัด
ถูกสวยดี เก็บไอเดียฟรีๆ จากนิตยสาร my home
สุนทรีย์ เสพงานศิลป์ในบ้านและสวน Art Gallery
ทำบุญอย่างมีดีไซน์ ด้วยการอุดหนุนเก้าอี้คอลเล็คชั่นพิเศษรุ่นใหม่ จากบ้านและสวน
ผ่อนคลาย ดื่มน้ำ ดูดีไซน์ ใน room lounge ที่ตกแต่งด้วยเทรนด์ใหม่ล่าสุด


รวมดีไซน์สร้างสรรค์ .... ครบครันสำหรับคนรักบ้านและสวน

จุดเด่นของงาน
1. แสดงบ้านตัวอย่าง คอนเซ็ปต์ “อ่อนน้อมต่อธรรมชาติ” เป็นสะพานเหล็กสร้างจริง ดีไซน์ล้ำ ทำลายธรรมชาติน้อยที่สุด ทุกห้องเรียงตัวอยู่บนสะพาน โดยบ้านจะอยู่บนสะพานที่มีส่วนแตะพื้นดินเพียง 2 จุดเท่านั้น บนพื้นที่ 576 ตร.ม.
2. แสดง 10 สวนที่เข้ารอบจากการประกวด “สวนแห่งความทรงจำ”
3. แสดง 20 ผลงานที่เข้ารอบและชนะเลิศจากการประกวด “จัดสวนในตู้ปลา”
4. แปลกใหม่ ตระการตากับสวนโชว์แนวแฟนตาซี เหมือนยกผืนป่าในเทพนิยายมาไว้ในงาน
5. การประกวดต้นไม้ อาทิ เฟิน, ไม้กินแมลง, สัปปะรดสี, กล้วยไม้, แคคตัส และไม้อวบน้ำ
6. “Garden of Ideas” Tip ดี ๆ สำหรับการแต่งบ้านและจัดสวน มาจัดแต่งเป็นมุมสวนที่สวยงาม และสามารถนำไปใช้ได้จริง จากหนังสือสำนักพิมพ์บ้านและสวน
7. เลือกช็อปแบบบ้านสวย แบบสวนจัดง่าย ราคาประหยัด เลือกตามใจชอบ
8. ปรึกษาฟรี ! เกี่ยวกับเรื่องบ้านและสวน โดยทีมสถาปนิก มัณฑนากร และนักจัดสวนมืออาชีพที่ศาลา บ้านและสวนเซ็นเตอร์
9. คอร์สอบรม – สัมมนา เกี่ยวกับบ้าน สวน
10. บ้านและสวน Art Gallery งานศิลปการแต่งบ้านที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้
11. ลาน DIY จากนิตยสาร my home มุมตัวอย่างการแต่งบ้านอย่างประหยัดด้วยตัวเอง สอนฟรีให้ผู้ชมงานลงมือทำงานประดิษฐ์ งานฝีมือ สำหรับแต่งบ้านได้ด้วยตัวเอง
12. พบกับ room bar Design & Refreshment มุมพักผ่อน อาหารและเครื่องดื่ม โดยนิตยสาร room ตกแต่งด้วย Trend ใหม่ที่กำลังมาแรง
13. Baanlaesuan Chairs : สั่งจองเก้าอี้คอลเลคชั่นพิเศษของบ้านและสวน พร้อมลูกเล่นใหม่ๆ ดีไซน์สวยๆ มี จำหน่ายเฉพาะในงานเท่านั้น
ความเป็นมา
บ้านและสวน” เป็นนิตยสารชั้นนำของประเทศไทย โดยมีเนื้อหาครอบคลุมทางด้านสถาปัตยกรรม, การตกแต่งภายใน, ผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน, วัสดุก่อสร้าง, ข่าวและกระแสนิยมทางการออกแบบ นอกจากนั้นยังเป็นนิตยสารเดียวที่นำเสนอบทความเกี่ยวกับสวน ภูมิสถาปัตยกรรม และพันธุ์ไม้ ประดับที่โดดเด่น และหลากหลาย

นิตยสาร “บ้านและสวน” ภายใต้การผลิต และบริหารของบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) จัดพิมพ์ขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 เป็นต้นมา นิตยสารบ้านและสวน ได้นำเสนอเนื้อหา ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ทั้งยังเป็นต้นแบบให้กับนิตยสารประเภทเดียวกัน ด้วยเนื้อหาที่เข้าใจง่าย และทันสมัย ทำให้เข้าถึงผู้อ่านทุกระดับและครอบคลุมตลาดได้ทั้งหมด จากการสำรวจผู้อ่านทั่วไป ซึ่งจัดทำโดยบริษัทวิจัยตลาดชั้นนำ ยืนยันว่า นิตยสาร “บ้านและสวน” นั้นเป็นนิตยสารที่ผู้อ่านนิยม มากกว่านิตยสารอื่นๆ ในประเภทเดียวกัน

เพื่อเป็นการให้บริการแก่ผู้อ่านและประชาชนทั่วไป ของนิตยสารได้ดียิ่งขึ้น บริษัทได้จัดงานประจำปี ในชื่อ “บ้านและสวนแฟร์” ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ.2543 เนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิดปีที่ 25 ของนิตยสาร “บ้านและสวน” ความสำเร็จของงานในครั้งนั้นพบว่า มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าและผู้เข้าชม เป็นจำนวนมากเกินความคาดหมาย นอกจากนั้นยังมีจดหมายจากผู้อ่านเป็นจำนวนมากเรียกร้องให้จัด งานเช่นนี้เป็นประจำทุกปี

ปัจจุบัน “บ้านและสวนแฟร์” เป็นงานที่รวบรวมบริษัทชั้นนำทางธุรกิจการก่อสร้างการตกแต่ง, เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ สุขภัณฑ์, อุปกรณ์ก่อสร้าง, อุปกรณ์ทำสวน, อุปกรณ์ตกแต่งสวนและไม้ ประดับที่ดีที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบัน บ้านและสวน นำเสนอข้อมูลเรื่องราว และประสบการณ์ ผ่านนิตยสาร, งานแฟร์, หนังสือเล่ม, website, การฝึกอบรม (Amarin Training) และ ทัวร์ (Amarin Tour)

แผนผัง บริเวณงาน
การเดินทาง ลานจอดรถ  บ้านและสวนแฟร์ 2010

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

แบบบ้านฟรี แบบบ้าน การเวก

แบบบ้านฟรี แบบบ้าน การเวก แบบบ้านฟรี กทม.
 แบบบ้านสองชั้น


2 ชั้น
3 ห้องนอน
3 ห้องน้ำ
1 ห้องคนรับใช้
2 ห้องพักผ่อน
ที่จอดรถ 2 คัน
พื้นที่ใช้สอยโดยประมาณ 292 ตารางเมตร
เนื้อที่ดิน อย่างน้อย
14x27 ตารางวา
ราคาเริ่มต้น 2,920,000 บาท
ข้อมูลจาก โครงการแบบบ้านยิ้มเพื่อประชาชนของกทม
แบบบ้านสวย จาก โครงการ แบบบ้านยิ้ม แบบบ้านเพื่อประชาชน ของกทม

http://office.bangkok.go.th/housing/Temporary/BanyimBlueprint/FramesetBanyimBlueprint.html

สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย 
208 ถนนนาคนิวาส ( อาคารสำนักงานเขตลาดพร้าว ชั้น 8 ) เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10230

แบบบ้านฟรี ไทยอนุรักษ์ไทยภาคใต้ แบบบ้านฟรีกทม. แบบบ้านสองชั้น

แบบบ้านฟรี ไทยอนุรักษ์ไทยภาคใต้ แบบบ้านฟรี กทม.
 แบบบ้านสองชั้น


2 ชั้น
2 ห้องนอน
1 ห้องน้ำ
ที่จอดรถ 2 คัน
พื้นที่ใช้สอยโดยประมาณ 243.30 ตารางเมตร
เนื้อที่ดิน อย่างน้อย 80 ตารางวา

ราคาเริ่มต้น 2,433,800 บาท
ข้อมูลจาก โครงการแบบบ้านยิ้มเพื่อประชาชนของกทม
แบบบ้านสวย จาก โครงการ แบบบ้านยิ้ม แบบบ้านเพื่อประชาชน ของกทม

http://office.bangkok.go.th/housing/Temporary/BanyimBlueprint/FramesetBanyimBlueprint.html

สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย 
208 ถนนนาคนิวาส ( อาคารสำนักงานเขตลาดพร้าว ชั้น 8 ) เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10230

แบบบ้านฟรี ไทยอนุรักษ์ไทยภาคอีสาน แบบบ้านฟรีกทม. แบบบ้านสองชั้น

แบบบ้านฟรี ไทยอนุรักษ์ไทยภาคอีสาน แบบบ้านฟรี กทม.
 แบบบ้านสองชั้น


2 ชั้น
2 ห้องนอน
2 ห้องน้ำ
ที่จอดรถ 1 คัน
พื้นที่ใช้สอยโดยประมาณ 242.00 ตารางเมตร
เนื้อที่ดิน อย่างน้อย 75 ตารางวา

ราคาเริ่มต้น 2,420,800 บาท
ข้อมูลจาก โครงการแบบบ้านยิ้มเพื่อประชาชนของกทม
แบบบ้านสวย จาก โครงการ แบบบ้านยิ้ม แบบบ้านเพื่อประชาชน ของกทม

http://office.bangkok.go.th/housing/Temporary/BanyimBlueprint/FramesetBanyimBlueprint.html

สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย 
208 ถนนนาคนิวาส ( อาคารสำนักงานเขตลาดพร้าว ชั้น 8 ) เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10230

แบบบ้านฟรี ไทยอนุรักษ์ไทยภาคเหนือ

แบบบ้านฟรี ไทยอนุรักษ์ไทยภาคเหนือ แบบบ้านฟรี กทม.
 แบบบ้านสองชั้น


2 ชั้น
3 ห้องนอน
3 ห้องน้ำ
ที่จอดรถ 1 คัน
พื้นที่ใช้สอยโดยประมาณ 332.88 ตารางเมตร
เนื้อที่ดิน อย่างน้อย 18x21 ตารางวา
หน้ากว้างที่ดินอย่างน้อย 20 เมตร
ราคาเริ่มต้น 3,328,800 บาท
ข้อมูลจาก โครงการแบบบ้านยิ้มเพื่อประชาชนของกทม
แบบบ้านสวย จาก โครงการ แบบบ้านยิ้ม แบบบ้านเพื่อประชาชน ของกทม

http://office.bangkok.go.th/housing/Temporary/BanyimBlueprint/FramesetBanyimBlueprint.html

สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย 
208 ถนนนาคนิวาส ( อาคารสำนักงานเขตลาดพร้าว ชั้น 8 ) เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10230

วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

แบบบ้านฟรี ครอบครัวไทยเป็นสุข8

แบบบ้านฟรี ครอบครัวไทยเป็นสุข8 แบบบ้านฟรี กทม.
 แบบบ้านสองชั้น


2 ชั้น
3 ห้องนอน
5 ห้องน้ำ
ที่จอดรถ 1 คัน
พื้นที่ใช้สอยโดยประมาณ 382.95 ตารางเมตร
เนื้อที่ดิน อย่างน้อย 135 ตารางวา
หน้ากว้างที่ดินอย่างน้อย 20 เมตร
ราคาเริ่มต้น 3,895,500 บาท
ข้อมูลจาก โครงการแบบบ้านยิ้มเพื่อประชาชนของกทม
แบบบ้านสวย จาก โครงการ แบบบ้านยิ้ม แบบบ้านเพื่อประชาชน ของกทม

http://office.bangkok.go.th/housing/Temporary/BanyimBlueprint/FramesetBanyimBlueprint.html

สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย 
208 ถนนนาคนิวาส ( อาคารสำนักงานเขตลาดพร้าว ชั้น 8 ) เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10230

วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

แบบบ้านฟรี ครอบครัวไทยเป็นสุข7

แบบบ้านฟรี ครอบครัวไทยเป็นสุข7 แบบบ้านฟรี กทม.
 แบบบ้านสองชั้น


2 ชั้น
3 ห้องนอน
3 ห้องน้ำ
ที่จอดรถ 1 คัน
พื้นที่ใช้สอยโดยประมาณ 240.44 ตารางเมตร
เนื้อที่ดิน อย่างน้อย 90 ตารางวา
หน้ากว้างที่ดินอย่างน้อย 14 เมตร
ราคาเริ่มต้น 2,404,400 บาท
ข้อมูลจาก โครงการแบบบ้านยิ้มเพื่อประชาชนของกทม
แบบบ้านสวย จาก โครงการ แบบบ้านยิ้ม แบบบ้านเพื่อประชาชน ของกทม

http://office.bangkok.go.th/housing/Temporary/BanyimBlueprint/FramesetBanyimBlueprint.html

สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย 
208 ถนนนาคนิวาส ( อาคารสำนักงานเขตลาดพร้าว ชั้น 8 ) เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10230

แบบบ้านฟรี ครอบครัวไทยเป็นสุข6

แบบบ้านฟรี ครอบครัวไทยเป็นสุข6 แบบบ้านฟรีกทม.
 แบบบ้านสองชั้น

2 ชั้น
3 ห้องนอน
3 ห้องน้ำ
ที่จอดรถ 1 คัน
พื้นที่ใช้สอยโดยประมาณ 230.75 ตารางเมตร
เนื้อที่ดิน อย่างน้อย 100 ตารางวา
หน้ากว้างที่ดินอย่างน้อย 16 เมตร
ราคาเริ่มต้น 2,307,500 บาท
ข้อมูลจาก โครงการแบบบ้านยิ้มเพื่อประชาชนของกทม
แบบบ้านสวย จาก โครงการ แบบบ้านยิ้ม แบบบ้านเพื่อประชาชน ของกทม

http://office.bangkok.go.th/housing/Temporary/BanyimBlueprint/FramesetBanyimBlueprint.html

สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย
208 ถนนนาคนิวาส ( อาคารสำนักงานเขตลาดพร้าว ชั้น 8 ) เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10230  โทร 02-538-7307, 02-588-8087, 02-538-9538